วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Guide For Sorceress Class





ชื่ออาชีพ : Sorceress (นักเวทย์)

เพศ : หญิง

รายละเอียด : Sorceress เป็นอาชีพขั้นแรกของนักเวทย์ ซึ่งเป็นสายอาชีพที่ถือว่ามีความแรงในการโจมตีด้วยเวทย์แรงที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยการใช้เวทย์ธาตุ ไฟ , นํ้าแข็ง และ ความมืด
สายอาชีพนี้มีอาวุธหลักทั้งหมด 3 ชิ้นด้วยกันดังนี้ - หนังสือเวทย์ / ตุ๊กตา / ลูกแก้ว ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีเน้นเพิ่มความสามารถให้กับตัวละครไม่เหมือนกัน

หนังสือ (Book) : เป็นอาวุธที่เพิ่มความสามารถเวทย์มนต์ให้แก่ผู้ใช้ โดยจะเน้นในด้านการ Recovery MP หรือเร่งการฟื้นฟูมานา ให้แก่ผู้ใช้ ในส่วนของความแรงเวทย์ และค่า Critical นั้นอยู่ในระดับกลาง

ตุ๊กตา (Doll) : เป็นอาวุธที่เพิ่มความสามารถเวทย์มนต์ให้แก่ผู้ใช้ โดยจะเน้นในด้านการเพิ่ม MAX MP ให้แก่ผู้ใช้ ในด้านความแรงเวทย์ และค่า Critical นั้นจะเท่ากับหนังสือ

ลูกแก้ว (Orb) : เป็นอาวุธที่เพิ่มความสามารถเวทย์มนต์ให้แก่ผู้ใช้ โดยจะเน้นในด้านการ เพิ่มพลังโจมตีเวทย์มนต์ (Magic Damage) & เพิ่มค่า Critical มากที่สุด

และหากผู้เล่นเก็บค่าประสบการณ์จนถึงเลเวล 15 ได้แล้วจะสามารถเปลี่ยนอาชีพแยกออกได้เป็น 2 สายด้วยกันนั้นคือ : Elemental Lord & Force User


Sorceress Skill Tree


- * สามารถกดที่รูปสกิล / ชื่อสกิล เพื่อดูตัวอย่างของสกิลได้ * -
Flame Worm
ต้องการเลเวลตัวละคร : 1
รายละเอียด : ปล่อยลูกไฟไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เหมาะกับการใช้เวลาโดนมอนสเตอร์วิ่งตามในแนวหน้า สามารถใช้สกิลนี้พลักมอนสเตอร์ออกไปได้ โดยสกิลนี้มีค่า Delay ค่อนข้างสูง และสามารถทำให้เป้าหมายติดสถานะ Burn ชั่วคราวได้ ถ้าหากเป้าหมายติดสถานะ Burn อยู่แล้วสามารถใช้สกิลนี้เพื่อเพิ่มความแรงให้ Burn ได้แรงขึ้นและระยะเวลานานยิ่งขึ้น ... อัพเป็นทางผ่านสำหรับ Elemental Lord พอ ส่วน Force User ไม่ต้องอัพสกิลนี้

Whirling Staff
ต้องการเลเวลตัวละคร : 1
รายละเอียด : ใช้คทาของเรากระโดดแล้วควงโจมตีใส่มอนสเตอร์ข้างหน้า เป็นสกิลที่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไร จะใช้เพียงแค่ช่วงแรกของเกมเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีค่า Delay ค่อนข้างสูง แต่ด้วยสกิลเป็นประเภท กายภาพ และโอกาศใช้ได้น้อยจึงไม่เป็นที่นิยม (แต่เป็นอีก 1 สกิลที่จำเป็นในการคอมโบใน PVP) ... มีไว้เลเวล 1 พอไม่ต้องอัพเพิ่มหรอก -3-

Glacial Spike
ต้องการเลเวลตัวละคร : 3
รายละเอียด : ปล่อยก้อนนํ้าแข็งพุ่งโจมตีศัตรูในแนวหน้า 25 องศา เป็นสกิลสำคัญมากเนื่องว่าเป็นสกิลที่มีโอกาศทำให้มอนสเตอร์ที่โดนสกิลนี้มีโอกาศติด Freeze และเป็นสกิลที่มีค่า CD น้อยสามารถใช้ได้เรื่อยๆ และตัวสกิลตัวมันเองก็มีพลังโจมตีที่ค่อนข้างสูงใน 1 hit ... ควรอัพให้เต็มสำหรับ Elemental Lord เพราะถือว่าเป็นสกิลที่ทำ DPS ได้ดีมากๆ แต่หากเป็น Force User ให้อัพแค่ 1 พอ

Poison Missile
ต้องการเลเวลตัวละคร : 5
รายละเอียด : ปล่อยก้อนพิษไปข้างหน้า 2 ก้อน (45 องศา ทั้งซ้ายและขวา) โจมตีเป็นธาตุ Dark โดยศัตรูทั่วไปหากโดนเข้าไปจะทำอะไรไม่ออกเนื่องด้วย สกิลพิษมีค่า Delay ที่สูงถึงขนาดที่ทำให้มอนสเตอร์เดินออกจากกองพิษไม่ได้กัน เหมาะสมกับการรวมมอนสเตอร์ในแนวหน้า แล้วปาพิษดักเพื่อให้มอนสเตอร์ติดกับแล้วร่ายเวทย์แรงๆใส่ ... เป็นสกิลที่ควรอัพให้เต็มหากเล่น Force User แต่สำหรับ Elemental Lord ควรอัพแค่ 1-2-3 พอ ไม่จำเป็นต้องอัพเต็ม เอาพ้อยไปอัพ Glacial Spike จะดีกว่า
*หากอัพสกิลนี้จน Lv Skill : 12 จะปล่อยกองพิษจาก 2 > 3 ก้อน (สามารถอัพได้ถึง 12 ตอนตัวละครเลเวล 38)*

Force Explosion
ต้องการเลเวลตัวละคร : 9
รายละเอียด : สร้างก้อนพลังความมืดข้างหน้าและระเบิดออกมา เป็นสกิลที่ถือว่าใช้เปิดฉากต่อสู้ในช่วงแรก และเป็นสกิลทางผ่านเพื่ออัพสายสกิลของอาชีพ Force User หลังๆสกิลนี้ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไรเนื่องจากค่าความเสียหายนั้นไม่สูง แต่ก็นิยมใช้กันใน PVP เวลาเป้าหมายกำลังวิ่งหนีเรา

Shock Wave
ต้องการเลเวลตัวละคร : 12
รายละเอียด : ระเบิดพลังเวทย์รอบๆตัวเรา (เวทย์มนต์กายภาพ) โดยสกิลนี้ถือว่ามีค่า Delay สูงที่สุดในสาย Sorceress แล้วเพราะศัตรูที่อยู่รอบๆตัวเราหากโดนเข้าไปที ถึงกับกระเด็นชนกำแพงกันเลยทีเดียว ... ไม่ควรอัพจนสูงเกินไป แนะนำให้อัพให้เป็นทางผ่านสำหรับสาย Force User และอัพแค่ 1 สำหรับ Elemental Lord ด้วยเหตุผลคือแม้ว่าจะอัพสูงเท่าไรค่า Delay ที่ได้ก็เท่าเดิม ดาเมจไม่ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดสักเท่าไร มีไว้ใช้ในช่วงเวลาที่เราโดนรุมก็โอเครแล้ว

Meditation
ต้องการเลเวลตัวละคร : 35
รายละเอียด : เป็นบัฟประจำสายอาชีพ โดยหากสมาชิกในปาร์ตี้ได้รับบัฟนี้จะใช้ MP ลดลงเวลาใช้สกิล 20% เป็นระยะเวลา 60 วินาที ... เป็นสกิลที่ยังไงก็ต้องอัพอยู่แล้วเพราะเสีย SP 0 และไม่เสียตังในการอัพ

Heel Attack
ต้องการเลเวลตัวละคร : 1
รายละเอียด : ใช้เท้าของเราขยี้มอนสเตอร์ที่ล้มลงอยู่ ค่าความเสียเป็นกายภาพ ... ยังไงทุกคนก็มีใช้กันอยู่แล้ว

Slap Attack
ต้องการเลเวลตัวละคร : 1
รายละเอียด : สกิลใช้โดยกดคลิกขวาของเมาส์ ซึ่งท่าจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับอาวุธที่เราเลือกใช้
- หากใส่ หนังสือ จะเป็นท่าเราเอาหนังสือตบหน้ามอนสเตอร์
- หากใส่ ตุ๊กตา จะเป็นท่าเราเสกเงาออกมาต่อยมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างหน้าเรา (ตามคลิปวีดิโอ)
- หากใส่ ลูกแก้ว จะเป็นท่าเราให้ลูกแก้วหมุนรอบตัวเราซึ่งหากมอนสเตอร์อยู่รอบตัวเรา 360 องศาจะโดนหมด และในฮิตสุดท้ายมอนสเตอร์จะกระเด็นออกห่างจากตัวเรา

Blink
ต้องการเลเวลตัวละคร : 1
รายละเอียด : สกิลพื้นฐานในการหลบการโจมตี โดยเราจะเป็นอมตะช่วงคราวในช่วงที่เราหลบ ... อัพให้เต็ม 5 อยู่แล้วทุกสายอาชีพ เวลาใช้แนะนำให้กด Shift + ทิศทางหลบ

Hammer Attack
ต้องการเลเวลตัวละคร : 4
รายละเอียด : สกิลกระโดดเอาคทาเคาะหัวมอนสเตอร์ มีค่า Delay & Super Armor Break ค่อนข้างสูงถึงขนาดทำให้อีกฝ่ายลงไปล้มกับพื้นยังได้ ... เหมาะกับการใช้เวลาทำลายสิ่งของ (ผนึก) และเหมาะกับการทำคอมโบใน PVP ควรจะอัพไว้

Counter Spell
ต้องการเลเวลตัวละคร : 5
รายละเอียด : สามารถกดใช้เวลาตัวละครเรานอนอยู่บนพื้น หากกดโจมตีตัวละครเราจะลุกขึ้นและระเบิดพลังรอบตัว ศัตรูที่อยู่รอบตัวเราหากโดนแรงระเบิดจะเสียหลักล้มทันที ... ใครไม่อัพก็...นะ = ="

Charge Missile
ต้องการเลเวลตัวละคร : 8
รายละเอียด : ชาร์จพลังลูกบอลเวทย์มนต์ และปล่อยพลังไปด้านหน้าตัวละคร สกิลนี้มีค่า Delay & Super Armor Break สูงมาก โดยหากใครโดนจะถึงกับชะงัก และหากเจอมอนสเตอร์ประเภทถือโล่ก็ร่ายสกิลนี้ 1-2 ทีโล่ก็แตกทันที แต่หากอัพสกิลนี้จะไม่สามารถคลิกซ้ายค้างเพื่อโจมตีธรรมดาได้ เพราะหากคลิกซ้ายค้างจะเป็นการชาร์จพลังเวทย์แทน .... เป็นสกิลที่เรียกได้ว่าคอ PVP น่าจะอัพไว้ เหมาะมากกับการ PVP 1 vs. 1 แต่คอลงดันหรือชอบ PVP หมู่ๆ สกิลนี้ควรข้ามไปเลย


Aerial Evasion
ต้องการเลเวลตัวละคร : 16
รายละเอียด : หากตัวละครเราเสียหลักบนอากาศ สามารถกดกระโดด (Space bar) เพื่อทรงตัวบนอากาศได้ .... อัพเต็มแบบไม่ต้องสงสัย

Escape
ต้องการเลเวลตัวละคร : 21
ต้องการสกิล : Blink Lv.2
รายละเอียด : หากตัวละครกำลังถูกอีกฝ่ายทำค่า Delay ใส่เราอยู่ สามารถกดหลบแบบสกิล Blink เพื่อหลบการโจมตีอีกฝ่ายแบบทันที .... อัพเต็มแบบไม่ต้องสงสัย

Physical Mastery
ต้องการเลเวลตัวละคร : 20
รายละเอียด : เพิ่ม MAX HP ให้กับตัวละครเป็น % ... ควรอัพให้เต็ม

Mental Mastery
ต้องการเลเวลตัวละคร : 20
รายละเอียด : เพิ่ม MAX MP ให้กับตัวละครเป็น % ... อัพให้ได้เลเวลสกิล 2 พอ

Mental Training
ต้องการเลเวลตัวละคร : 30
ต้องการสกิล : Mental Mastery Lv.2
รายละเอียด : ฟื้นฟูค่า MP ให้กับตัวละครเป็น % แบบอัตโนมัติ .... อัพเท่าที่อัพได้ เพราะหลังๆ MP ไม่พอใช้ =[]="

Video Promoted Sorceress

..................................................................................................................................



ชื่ออาชีพ : Elemental Lord (นักเวทย์แห่งธาตุ)

เงื่อนไขการเป็นอาชีพนี้ : เล่นตัวละครอาชีพ Sorceress จนถึงระดับ 15 และจบเควสเปลี่ยนอาชีพ 2 ครั้ง....

รายละเอียด : Elemental Lord ถือว่าเป็นสายอาชีพจ้าวแห่งธาตุ Fire & Water ซึ่งแต่ละธาตุก็จะมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน
โดยในธาตุ Fire (ไฟ) จะเป็นสายที่ลดเลือดมอนสเตอร์ได้เรื่อยๆ โดยหากเป้าหมายไหนถูกไฟเราเข้าไปจะติดสถานะ Burn(เผา) ยิ่งเวทย์ไฟเราแรงมากเท่าไร ความแรงในการเผายิ่งแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
ส่วนธาตุ Water (นํ้าแข็ง) จะเป็นสายที่ทำให้มอนสเตอร์ติดสถานะ Slow โดยความหนืดจะขึ้นอยู่กับสกิลที่ใช้ นอกจากนี้ยังทำ Freeze (แช่แข็ง) มอนสเตอร์ได้อีกด้วย ซึ่งมอนสเตอร์ทั่วไปหากโดนไปแล้วจะถึงกับหยุดนิ่งทำอะไรไม่ได้กันเลย ยกเว้นบอสจะทำให้นํ้าแข็งเกาะได้แต่ไม่สามารถที่จะหยุดบอสได้ รวมถึง Slow ด้วยจะไม่ส่งผลต่อบอส แต่การแช่แข็งมอนสเตอร์และบอสนั้นเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะเป้าหมายที่ติดแช่แข็ง จะได้รับค่าความเสียหายจาก กายภาพและเวทย์มนต์ มากกว่าเดิม 30-50% กันเลยทีเดียว!!!
แต่ถ้าหากพูดถึงความแรงโดยรวมแล้วต้องยกให้กับสาย Fire / เรื่องสนับสนุนหรือก่อกวนเล็กน้อยก็ยกให้ Water / เล่นผสมไปเลยก็ดี!!!!

เมื่อผู้เล่นเก็บค่าประสบการณ์จนถึงเลเวล 45 จะสามารถแบ่งสายอาชีพได้อีก 2 สายด้วยกันนั้นคือ : Saleana & Elestra


Elemental Lord Skill Tree


- * สามารถกดที่รูปสกิล / ชื่อสกิล เพื่อดูตัวอย่างของสกิลได้ * -

Fire Ball
ต้องการเลเวลตัวละคร : 15
ต้องการสกิล : Frame Worm Lv.5
รายละเอียด : ชาร์ตลูกไฟที่มือของเรา โดยจะต้องชาร์จ 3 วินาที ถึงจะสามารถทำค่าความเสียหายได้สูงสุด เป็นอีกหนึ่งสกิลที่มีค่า Super Armor Break มากที่สุดหากชาร์จครบ 3 วินาที ... เป็นสกิลที่ควรอัพให้เต็มเพราะเนื่องจากเป็นสกิลที่ถือว่าแรงที่สุดแล้วในสกิลธรรมดาของ Element และมีคูลดาวน์ที่ถือว่าน้อย

Inferno
ต้องการเลเวลตัวละคร : 17
ต้องการสกิล : Fire Ball Lv.1
รายละเอียด : ควงคทาไปข้างหน้าพร้อมกับปล่อยไฟออกไปทางยาวหน้าด้านหน้าตัวละคร (30 องศา) มีค่า Delay สูง ... เป็นสกิลที่ควรอัพให้เต็มสำหรับ Elemental สายไฟ เพราะเป็นสกิลที่ทำค่าความเสียหายโดยรวมถือว่าเยอะอยู่
* หากอัพเลเวลสกิลถึงเลเวล 7 จะเพิ่มระยะความไกลของสกิลจาก 5 เมตร > 7 เมตร (สามารถอัพเลเวลสกิล 7 ได้หลังจากตัวละครเรามีเลเวล 35) *

Fire Wall
ต้องการเลเวลตัวละคร : 23
ต้องการสกิล : Inferno Lv.3
รายละเอียด : ชาร์ตพลังไฟแล้วปล่อยออกมารอบตัวเรา ทำให้มอนสเตอร์เสียหลักและลอยไปบนอากาศ ... ไม่ควรจะอัพเยอะ อัพแค่ผ่านพอ เนื่องจากอัพ 1 เลเวลสกิลแล้วไม่ได้แรงมากขึ้นเท่าไร และเป็นสกิลที่เอาไว้แก้ไขสถานการณ์เวลาโดนมอนสเตอร์ และสกิลต้องร่ายในระยะใกล้อีกด้วย

Fire Shield
ต้องการเลเวลตัวละคร : 26
ต้องการสกิล : Fire Wall Lv.2
รายละเอียด : สร้างโล่ไฟขึ้นมารับค่าความเสียหายให้กับผู้ใช้จำนวนหนึ่งและเพิ่มค่า Delay ให้กับตัวเรา นอกจากนี้หากมีมอนสเตอร์อยู่รอบๆเวลาเราเปิดโล่นี้มอนสเตอร์จะติดสถานะ Burn ชั่วคราว สกิลนี้เป็นประเภท Toggle (ON/OFF) แต่ผู้ร่ายจะเสีย MP เรื่อยๆหากยังเปิดใช้โล่นี้ ... เป็นสกิลที่ควรอัพให้เต็มเพราะจะรับค่าความเสียหายได้เยอะมาก แต่ถ้าหากคุณเล่นสายผสม แนะนำให้อัพ Ice Shield จะดีกว่า

Flame Load
ต้องการเลเวลตัวละคร : 32
ต้องการสกิล : Fire Shield Lv.2
รายละเอียด : กระโดดขึ้นคทาแล้วทำตัวเป็นเด็กแว๊น แว๊นโดยทางที่เราแว๊นจะมีไฟตามติดข้างหลังตลอดจนหมดสถานะสกิล ... สกิลที่ต้องอัพเต็มไม่ว่าจะเล่นสายผสมหรือสายเดี่ยว เพราะมันแรงมาก แนะนำให้ใส่เพลทสกิลนี้เพื่อเพิ่มความแรงให้ยิ่งขึ้น

Video Promoted Elemental Lord

............................................................................................................


ชื่ออาชีพ : Force User (นักเวทย์แห่งกาลเวลาและห่วงมิติ)

เงื่อนไขการเป็นอาชีพนี้ : เล่นตัวละครอาชีพ Sorceress จนถึงระดับ 15 และจบเควสเปลี่ยนอาชีพ 2 ครั้ง....

รายละเอียด : Force User เป็นอาชีพที่พัฒนามาจาก Sorceress ซึ้งเป็นนักเวทย์ที่เกี่ยวกับกาลเวลาและห่วงมิติ ถึงแม้ว่าพลังเวทย์จะไม่เท่ากับสาย Elemental Lord
แต่ความสามารถนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่า Elemental Lord เลย โดย Force User มีความสามารถในการปั่นป่วนศัตรูได้ดีเยี่ยม อย่างเช่น ดูดมอนสเตอร์ให้มารวมอยู่จุดเดียวกัน , ทำให้ในอาณาเขตนั้นหากมีศัตรูเดินมาจะติด Slow , หยุดเวลาเหล่ามอนสเตอร์ไม่ให้สามารถทำอะไรได้ (ไม่สามารถใช้ได้กับบอส) นอกจากนี้ยังมีบัฟช่วยสมาชิกในปาร์ตี้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น ลดเวลาคูลดาวน์ของสมาชิกในปาร์ตี้ถึง 80-90% กันเลยทีเดียว!
ถึงแม้ว่าสกิลจะไม่แรงเท่า Elemental Lord แต่ว่าลูกเล่นและสีสันของสายนี้ไม่น้อยหน้าไปกว่า Elemental Lord

เมื่อผู้เล่นเก็บค่าประสบการณ์จนถึงเลเวล 45 จะสามารถแบ่งสายอาชีพได้อีก 2 สายด้วยกันนั้นคือ : Masjesty & Smasher

Video Promoted Force User

แหล่งที่มา/Credit Borad bbs.playpark.com คุณ bazara01
http://bbs.playpark.com/topic/141295-sorceress-%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88/

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Dragon Nest ประเทศไทย ประเดิมใช้ระบบใหม่ Hybrid System ที่แรกในโลก!

สวัสดีครับ หลังจากโหมโรงเปิดตำนานกันไปในตอนที่แล้วสำหรับ Dragon Nest ประเทศไทย คราวนี้จะพาไปดูระบบของเซิร์ฟเวอร์กันต่อเลย หลายคนคงลุ้นกันตัวโก่งสินะ ว่าไทยจะใช้ระบบ ABP หรือ FTG ซึ่งทีมงานก็ได้รับคำตอบจากทาง Asiasoft มาแล้วว่า เซิร์ฟเวอร์ไทยจะใช้ระบบ Hybrid System ที่รวมเอาทั้ง ABP และ FTG ไว้ด้วยกัน ซึ่งระบบนี้จะประเดิมใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์ไทยเป็นที่แรกในโลกเลยทีเดียว

image

     Dragon Nest นั้นเป็นเกมที่มีระบบการเล่นค่อนข้างจะแปลกใหม่พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของการจำกัดการเล่นต่อวันที่พวกเรารู้จักกันดีว่าระบบ FTG ที่ย่อมาจาก Fatigue หรือความเหนื่อย ที่มีขึ้นเพื่อจำกัดการลงดันเจี้ยนของผู้เล่นในแต่ละวัน ซึ่งหากผู้เล่นใช้ค่า FTG หมดแล้วในวันนั้น ก็จะไม่สามารถลงดันเจี้ยนได้อีกต่อไป ต้องรอให้ข้ามวันเพื่อให้ค่า FTG รีเซ็ตกลับมาก่อนถึงจะลงต่อได้ ซึ่งดูแล้วมันก็เป็นการจำกัดการเล่นกันมากเกินไป ทางผู้พัฒนาก็เลยทำระบบใหม่ออกมาอีกตัวนึงที่เรียกว่า ABP ซึ่งย่อมาจาก Altea's Blessing Points ซึ่งจะเพิ่มค่า Bonus EXP และ Drop Rate หลังจบดันเจี้ยนทุกครั้งจนกว่า Point จะหมด ซึ่งเมื่อ Point หมดแล้วผู้เล่นก็จะยังลงดันเจี้ยนได้ตามปกติ แต่จะไม่ได้รับ Bonus EXP และ Drop Rate แล้ว แต่ระบบ ABP ก็ยังมีจุดบอดใหญ่ที่สำคัญอยู่ เพราะการลงดันเจี้ยนได้แบบไม่จำกัดก็ทำให้เกิดการฟาร์มของฟาร์มเงิน และทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ทำให้เกิดช่องว่างของผู้เล่นเก่าและผู้เล่นใหม่ขึ้น (คล้ายๆ กับช่องว่างระหว่างวัยของเด็กกับผู้ใหญ่ประมาณนั้นแหละ)

image

image

ตำแหน่งของแถบ FTG และ ABP อยู่ฝั่งขวาที่เดียวกันเลย ส่วนทางซ้ายเป็นแถบ EXP
เงื่อนไข ข้อดี และข้อเสียของระบบต่างๆ
ระบบ FTG (Fatigue System)
     ปัจจุบันมี 4 เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ระบบนี้ได้แก่ เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, จีน และไต้หวัน
เงื่อนไขของระบบ FTG
   1. จำกัดการเล่นต่อวันด้วยค่า FTG ซึ่งถ้าใช้จนหมดแล้ว ในวันนั้นจะลงดันเจี้ยนต่อไม่ได้
   2. ค่า FTG ต่อวัน ในวันธรรมดาจำกัดที่ 700 และในวันเสาร์อาทิตย์จำกัดที่ 1000
   3. เวลาที่ใช้ในการลงดันเจี้ยน (ผลาญ FTG) เก็บเลเวลเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 2-4 ชั่วโมงต่อวัน
ข้อดีของระบบ FTG
   1. ทำให้คนที่มีเวลาเล่นเกมน้อยพัฒนาตัวละครได้เท่าๆ กับคนที่มีเวลาเล่นเกมมาก
   2. ช่วยรักษาสมดุลในระบบเศรษฐกิจของเกม
ข้อเสียของระบบ FTG
   1. เป็นการจำกัดการเล่นกันมากเกินไป
   2. เก็บเลเวลยาก และไม่ต่อเนื่อง

image

ระบบ ABP (Altea's Blessing Point)
     ปัจจุบันมี 2 เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ระบบนี้ได้แก่ อเมริกา และ SEA
เงื่อนไขของระบบ ABP
   1. ค่าประสบการณ์ปกติคือ 70% ของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ระบบ FTG (มอนสเตอร์ตัวเดียวกัน เซิร์ฟเวอร์ระบบ FTG ให้ EXP 100 เซิร์ฟเวอร์ APB จะให้ EXP แค่ 70)
   2. เมื่อใช้ค่า ABP จนหมดแล้วผู้เล่นก็ยังสามารถลงดันเจี้ยนได้ตามปกติ แต่ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจะลดลงเหลือเพียง 40% เท่านั้น
ข้อดีของระบบ ABP
   1. ให้อิสระในการเก็บเลเวลเพราะลงดันเจี้ยนได้ไม่จำกัด
   2. เก็บเลเวล ไอเทม และเงินได้ง่าย
ข้อเสียของระบบ ABP
   1. ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของผู้เล่นเก่าและผู้เล่นใหม่
   2. ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลจากการลงดันเจี้ยนได้ไม่จำกัด ทำให้มีการฟาร์มของฟาร์มเงินได้อย่างอิสระ

image

ระบบ Hybrid (FTG+ABP)
     ระบบใหม่ล่าสุดที่จะเริ่มใช้กับเซิร์ฟเวอร์ไทยเป็นที่แรกในโลก
เงื่อนไขของระบบ Hybrid
   1. เมื่อเลเวลยังไม่ตันจะใช้เงื่อนไขของระบบ ABP คือลงดันเจี้ยนได้ไม่จำกัด แต่ค่า EXP และ Drop Rate จะได้รับเต็มๆ เหมือนระบบ FTG (ไม่มีการหัก % แบบ ABP) และการลงดันเจี้ยนแต่ละครั้งจากเดิมระบบ ABP ที่จะหัก Point ทีละ 20-150 Point ก็จะปรับเหลือแค่ 3 Point เท่านั้น
   2. พอเลเวลตันจะปรับไปใช้เงื่อนไขของระบบ FTG ใช้แต้มลงดันเจี้ยนตามความเป็นจริง ซึ่งเมื่อแต้มหมดก็จะลงดันเจี้ยนไม่ได้
     ส่วนข้อดีข้อเสียจะเป็นอย่างไรเราจะได้เห็นกันเมื่อเกมเปิดให้บริการล่ะนะครับ หรือถ้าใครมีความคิดเห็นว่าระบบใหม่นี้น่าจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างก็ฝากคอมเมนต์กันไว้ได้เลยนะ ถือเป็นการช่วยกันถกไปในตัว ส่วนตอนต่อไปผมจะมีอะไรมาให้อ่านกันต่อก็ต้องติดตามกันให้ดีนะ เพราะบางทีมันอาจจะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้ สวัสดีครับ

image

แหล่งที่มา/Credit: Online-station.net

http://www.online-station.net/feature/feature/14903

สามารถติดตามข้อมูลเกมและการUpdate บทความ Dragonnest-Cafeได้ช่องทางต่อไปนี้

Facebook:Dragonnest-Cafe Blogfansite th (follow me from fanpage)
Twitter:Dragonicafe (follow me from twitter)
Google+:Jsmaster(search and follow me)

ติดตามข่าวสารเกมผ่าน+Dragonnest-Cafeที่นี่ครับ