วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

Sea Dragon nest

สวัสดีครับ วันนี้เรามาพบกับ

Seadragon Nest เนสมังกรนรกที่ผ่านกันยากพอสมควร แต่ถ้าสามัคคีกันแล้วไซร้ และรู้เทคนิคทุกด่าน เนสนี้จะเปนเนสที่ง่ายเลยทีเดียวละครับ

และ nest นี้ยังเป็น เนสพิเศษที่ให้ผู้เล่นได้ร่วมท้าทาย และยังสามารถลงกันได้ถึง 8 คนเลยทีเดียว ซึ่งถ้าจบได้จะได้รับชุด เกรดอภิมหาแร

หรือชุดขอบ ม่วง ซึ่งเป็นชุดระดับ S เป็นชุดระดับสูงสุดในเกมส์นั่นเอง ซึ่งชุดนี้จะพิเศษหลาย ๆ อย่างตรงที่

1.จะโชว์ชุดให้เห็นเลย (แต่ต้องถอดชุดแคชออกเพื่อโชว์ เอาไว้โชว์ในเมือง)
2.ตี + จะใช้ หินตี+ พิเศษ ซึ่งได้จากการทำฟาร์มเท่านั้น เวลาปลูกเม็ดละ 30 นาที หาซื้อได้ที่ ส่วนของฟาร์มครับ
3.ชุดเมื่อ + จะ + เลือดเยอะมาก และยัง + str , agi , int (แล้วแต่สายอาชีพ) อีกด้วย
4.แต่ข้อเสียคือ ไม่สามารถคราฟได้ และ สามารถขายต่อได้แค่ 2 ครั้ง (seal)

ทีนี้ แล้วจะลงยังไงกันดี เอาละครับเรามาเริ่มต้นกันตรงที่

ผมขอประกอบเงื่อนไขขั้นต่ำต่าง ๆ เลยนะครับ

1.LV ขั้นต่ำ 40
2.ต้องมีตั๋วลง Seadragon nest
3.Hp ไม่ควรต่ำกว่า 50,000
4.สายโจมตี Dmg ควรเกิน 4.5k+ ถ้าเกิน 6K+ ได้ยิ่งดี
5.คนแท้งควรมีเลือดขั่นต่ำ 80K (recommend 100K+)
6.พระในตี้อย่างต่ำควรมีสัก 2 คน (ดาเมจไม่เยอะไม่เป็นไร ... แต่ขอ Hp เยอะๆ หมายถึงพระห้ามตายนั่นเอง)
7.อาชีพที่จำเป็นสำหรับ Seadragon nest > คนแท้ง Guardian Crusader ชดเชยได้ จำเป็นมาก  , Saint (จำเป็นมาก), Destroyer หรือ Berserker (ในส่วนนี้จะกล่าวในด่านที่ 6 ว่า สายเมอเชนนารี่สำคัญอย่างไร) , Force user ทั้ง 2 สาย ที่เหลือจะเป็นตัวทำดาเมจอื่น ๆ เช่น โบวมาสเตอ อโครแบต สายซอดแมน ฯลฯ

ทีนี้เมื่ออ่านเงื่อนไขแล้วเรามาดูวิธีทำ key กันดีกว่าครับเริ่มจากที่

ลง Manticore Hell mode จบ
ลง Apocalyse Hell mode จบ
image 
image

เมื่อลงจนจบดันและฆ่าบอสได้แล้ว ให้เปิดกล่องตรงกลางฉากจะได้ ของมา 1 อย่าง นั่นคือชิ้นส่วนที่เอาไว้ทำกุญแจลง ซีดราก้อนครับ
image
อันทางด้านซ้ายคือ ของที่ได้จากจบดันของ แมนติคอเฮลโหมด ส่วนด้านขวา คือของที่ได้จาก อโพเฮลโหมดตามลำดับ

เมื่อได้ครบอย่างละ 1 ชิ้น ให้มารวมกุญแจที่ บาทหลวงตัวทำ Plate ที่เมือง Saint heaven
image

เมื่อคุยแล้วเลือกหัวข้อที่ 4 และกด เลือกข้อแรกตามภาพแล้วเราจะได้กุญแจมังกรมา

image 

เมื่อได้มาแล้ว ให้ลงไป map ท่าเรือวาร์ปล่างสุด แล้วเข้าประตูไป

***ดันนี้จำกัดคนเข้า 5 คนอย่างต่ำครับ
How to defeat Sea Dragon nest?
 
ได้เวลาทำ Guide ซักทีหลังจากที่เหนื่อยกับการสอนแต่ละคนในการลงแต่ละ Stage แถมอาทิตย์นึงลงได้แค่ 3 รอบเท่านั้นถ้าผ่านก็รอบเดียว T T จึงทำ Guide นี้เพื่อให้ทุกคนได้ศึกษาก่อนที่จะทำการลงพิชิตมังกรสุดโหดแห่ง Dragon nest (คาดว่าเดี๋ยวคงมีมาอีกหลายตัว) Sea Dragon nest นั้นมีด้วยกัน 7 Stages แต่ละ stage มีความยากง่ายในตัวของมันเองโดย Stage แรกๆจะง่ายเมื่อเกิน Stage 3 ไปจะเริ่มยากและต้องอาศัยประสบการณ์ + Step + Tactic อีกมากมายเราไปดูกันที่ Stage แรกเลยดีกว่าพล่ามานานละ

สารบัญ (Index) (วิธีใช้งาน : กด Ctrl + f และ copy คำไปใส่เพื่อค้นหา)
Stage 1 : Cannon
Stage 2.1 : Pillars
Stage 2.2 : Black Hole
Stage 3 : Lava Golem
Stage 4 : Transform Cerberus
Stage 5.1 : 3 Brothers' Lizards
Stage 5.2 : Dancing Cows
Stage 6 : Poison Golem Mamon
Stage 1 : Cannon
ด่านแรกคือด่านที่เกรียนที่สุดก็ว่าได้ เนื่องจากไม่เน้นความสามัคคีอะไรมากมายนอกจากความแม่นยำในการยิงปืนใหญ่ใส่ มอนสเตอร์ โดยรวมแล้วความยากของด่านนี้อยู่ในระดับ C เพราะมีความเสี่ยงอยู่ที่คนยิง พูดอีกกรณีนึงคือ ยิงมั่ว = ตาย เอาล่ะมาดูกัน
image 
จากรูปด้านบนจะเห็นว่า วงกลมสีน้ำเงิน คือ จุดที่เราจะใช้ยิงปืนใหญ่ ส่วนวงกลมสีแดงคือ จุดที่มอนสเตอร์จะออกมาเป็นชุดๆ จำนวน 5 ชุด เริ่มจากอ่อนสุดไปยังเก่งสุด
ซึ่ง Damage ของชุดสุดท้ายอยู่ที่ประมาณ 20000 - 30000 ดังนั้นถ้าไม่ระวังให้ดีอาจจะหลับไม่รู้ตัว

image  
รูปต่อมาคือจุดแสดงสถานที่ตั้งของปืน ใหญ่จะแบ่งเป็น 2 แถว แถวละ 4 กระบอก ; โดยส่วนมากกระบอกหน้าจะเป็นพวก Cleric, Warrior และแถวหลังจะเป็นพวก Magician, Archer เหตุผลเพราะถ้าเกิดมีมอนสเตอร์หลุดเข้ามา แถวแรกจะพยายามรับเคราะห์ให้มากที่สุ และ ให้แถวหลังยิงมอนที่หลุดออกมา และ !! เนื่องจากนักเวทย์และนักธนูมีร่างกายที่เปราะบางการโจมตีเพียง 2-3 ทีอาจจะลงไปนอน planking กับพื้นได้

เอาล่ะหลังจากดูกันไปแล้วว่าควรดูยังไงเรามาดูวิธีผ่านด่านนี้กัน !!!

How to ?  : ให้ Paladin , Guardian , หรือ Crusader ที่ีมีสกิล Provoke ลงไปยืน ณ จุดที่มอนสเตอร์ออก หรือ วงกลมสีแดงด้านบน โดยยืนห่างจากปืนใหญ่พอประมา๊ณเมื่อมอนสเตอร์ออกมาพยายามกด Provoke ให้โดนทุกตัว (จริงๆไม่ต้องทุกตัวก็ได้แต่พยายามให้โดนมากที่สุดเพื่อกันการหลุด) โดยส่วนมาก 2 waves แรกจะไม่มีปัญหาเนื่องจาก hp ของมอนสเตอร์ยังน้อยอยู่ __________________________________________________________________
เมื่อถึง Waves ที่ 3 อาจจะมีหวาดเสียวกันเล็กน้อยเนื่องจากมอนสเตอร์จะอึดขึ้นโดยมีสกิล Super Armor (Note: Super armor คือเวลาที่เรายิงแล้วจะติดเกราะของมอนสเตอร์และต้องทำลาย Super armor ก่อนถึงจะทำ Damage แก่ตัวมอนสเตอร์ได้) แต่ว่าลูกปืนใหญ่สามารถทำลาย Super armor ได้ในนัดเดียวเพราะฉะนั้น waves นี้ Paladin ต้องพยายามล่อให้มอนสเตอร์มาอยู่ตรงกลางและให้ปืนทุกกระบอกระดมยิงมาที่ตัว Paladin เองโดย ตัว Paladin เองจะใส่สกิล block หรือ avatar แทงค์เลยก็ได้ถ้าคิดว่าไม่ไหวจริงๆ
__________________________________________________________________

เมื่อถึง Waves ที่ 4 ไม่ต่างจาก waves ก่อนหน้านี้มากคือมีตัวที่ติด super armor ติดมาเหมือนเดิม วิธีการก็คล้ายๆกับ wave ที่แล้วเพียงแต่ว่าถ้ากดสกิล block หรือ avatar ไปแล้ว Paladin คนที่ 2 ต้องลงมารับช่วงต่อทันที หรือ ถ้ายังไม่กดก็ให้กดสกิลใดสกิลหนึ่งเพื่อล่อไปก่อนจนกว่ามอนสเตอร์จะหมดฝูง (Tips: เนื่องจาก Nest ไม่ได้รีบให้เรารีบจบเวลามีเหลือเฟือพอใกล้จบ waves ที่ 3 สามารถชะลอการฆ่าเพื่อรอ cooldown ของสกิล block หรือ avatar ได้ หรือว่าถ้ามี Force user ก็ให้ใช้สกิลลด cooldown หรือใช้ priest ลงมาปักเสา miracle เพื่อช่วยลดดาเมจได้)
__________________________________________________________________

เมื่อถึง Waves สุดท้าย ให้ใช้วิธีเดียวกับ 2 waves ข้างต้นแต่ว่าเนื่องจาก waves สุดท้ายจะมีตัวที่อึดโคตะระอยู่ด้วย ให้ปืนทุกกระบอกพยายามเก็บลูก Super ไว้เนื่องจากลูก Super สามารถยิงทะลุ super armor ได้และฆ่ามอนสเตอร์ภายในนัดเดียวที่ยิง ที่ waves สุดท้าย priest อาจจะลงมาช่วยด้วยการปักเสา miracles เพื่อลด damage และล่อมอนให้อยู่ตรงกลาง


Tips :
1. ปืนใหญ่สามารถยิงด้วยการกด click ซ้าย และสามารถกดค้างเพื่อยิงรัวๆได้
2. ปืนใหญ่สามารถยิงแบบพิเศษหรือลูก Super (ใหญ่มากก) ด้วยการ click ขวา damage 2-3 เท่าจากลูกปกติ

3. สามารถออกจากปืนใหญ่ได้ด้วยการกด esc
4. ปืนใหญ่ไม่ทำ damage ต่อคนในตี้เพราะฉะนั้นจบด่านแล้วเกรียนตามใจชอบ
ส่งท้ายคลิปประกอบการยิง



-------------------------------------------------------------------------------------------------
Round 2 : Random !! >> Pillar or Black Hole
สำหรับ Stage 2 จะแบ่งออกเป็น 2 ด่านนะครับโดยจะสุ่มระหว่างด่านแท่นศิลาทั้ง 4 และหลุมดูด ทั้ง 2 ด่านมีความยากง่ายต่างกันเรามาดูกันที่ด่านศิลาก่อน


Stage 2.1 : Pillars

สำหรับด่านนี้มีวิธีการผ่านแบบง่ายๆด้วยการกดศิลาตามลำดับ "สี" ของมอนสเตอร์ที่เกิด หรือ ฆ่า มอนสเตอร์ให้หมดโดยมีดีบัฟต่างๆในแต่ละรอบความยากในระดับนี้อยู่ในเกณฑ์ของ B ในส่วนของการกดแท่นตามลำดับสี และ C+ สำหรับการฆ่ามอนสเตอร์ที่เกิดเรามาดูรูปร่างของเสากันก่อนเลยดีกว่า

image สีแดง
image สีน้ำเงิน
image สีขาว
image และอันสุดท้าย สีเขียว
How to? :แต่ ละแท่นจะกระจายอยู่ตามมุมต่างๆของแบบเป็นรูป 4 เหลี่ยมจัตุรัส ถ้าอยากจะผ่านโดยวิธีการกดก็ให้เหล่านักเวทย์ + พระ + นักธนู ไปยืนประจำแท่นๆต่างๆและตัวแทงค์จะยืนล่อมอนสเตอร์อยู่ตรงกลางและให้คอย สังเกตเวลามอนสเตอร์เกิดว่าเป็นสีอะไร อาทิเช่น ในตอนที่เริ่มต้นคลิปด้านล่าง จะเห็นได้ว่ามีก๊อบลินสีขาวเกิดก่อน ก็ให้กดแท่นสีขาวหลังจากที่มอนสเตอร์ออกครบทุกสีและเรียงลำดับสีตามที่มอน สเตอร์เกิดอีก 3 ตัวโดยด่านจะมีเวลาให้กดประมาณ 5 วินาที หรือ ฆ่ามอนสเตอร์ที่เกิดมาทั้งหมดโดยไม่สนใจที่จะกดท่าน (Tips: ผู้เขียนคิดว่าการฆ่าให้หมดง่ายกว่าการกดแท่นมากเพราะการกดแท่นต้องอาศัยการสื่อสารพอสมควร)

Tips :

1.ดีบัฟทุกชุดจะออกหลังจากที่เราไม่สามารถกดแท่นได้สำเร็จ
2.ดีบัฟจะเรียงลำดับตามนี้ เพิ่มคูลดาวน์ทุกสกิล 100% , ลดเกราะ 100%, ลดโจมตี 100%, และห้ามโจมตีเป็นเวลา 1 นาที (โจมตีไปแล้วไม่เกิดดาเมจแถมมันจะหันมาทั้งหมด)
คลิปประกอบการฆ่า

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Stage 2.2 : Black Hole

สำหรับ Stage นี้จะเรียกว่าง่ายก็ง่าย จะเรียกว่ายากก็ยากก็ว่าได้เพราะด่านแทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากมอนสเตอร์ที่ตี แรงปานกลาง + black hole ตรงกลางเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นการวัดกึ๋นในการใช้สกิล + สเตปมากกว่า ความยากระดับ C+ เท่านั้น เรามาดูกันลยดีกว่าครับ

image

พอเข้าฉากมาเราจะถูกตัดมาที่ cut scene ของบ่อน้ำำพุร้อนอันนี้ ดาเมจจากการแช่บ่อน้ำพุร้อนสามารถทำ Paladin เลือดแสนตายคาบ่อได้อย่างสบายเลยทีเดียว ด่านนี้จะมีมอนสเตอร์แค่ 3 เวฟเท่านั้นแต่ว่าจะมีการดูดจากบ่อน้ำพุร้อนอันนี้บ่อยครั้งเลยทีเดียว !! เวลาโดนดูดก็ให้กดวิ่งทิศทางฝั่งตรงข้ามของบ่อเพื่อที่จะไม่ต้องลงไปแช่
image

เมื่อเกิดมาจะเห็นได้ว่ามีน้ำพุร้อนอยู่ข้างหน้าและทางขวาจะ มีแท่นหินเล็กๆไว้สำหรับหลบการดูด (คือดูดยังไงก็ไม่ไปเพราะติดแท่นหิน สามารถดูคลิปประกอบได้) ส่วนอาชีพที่จะอยู่ด้านนอกได้นั้นต้องมีสกิลวิ่งไถ หรือบลิ้งระยะไกลอย่างน้อย 1-2 สกิล (บลิ้งธรรมดาใกล้เกินไป) และมี hp มากพอสมควรเพราะมอนสเตอร์ที่อยู่ในด่านนี้ตีไม่ได้ต่างจากด่านแรกหรือด่าน ท้ายๆเลยทีเดียว

image                   
อันนี้คือภาพแท่นที่ไว้หลบการดูดของบ่อน้ำพุร้อนโดยวิ่งมาทางขวาจากจุดที่เกิดตามลูกศรด้านบน
How to? : ในด่านนี้เราจะต้องตีมอนสเตอร์ไปเรื่อยๆโดยแบ่งเป็น 3 เวฟเท่านั้นเวฟแรกจะเป็นซอมบี้ระเบิดและซอมบี้น้ำแข็ง
ให้ระวังซอมบี้น้ำแข็งให้ดี เพราะ สกิลแช่แข็งของมันถ้าโดนตอนที่หลุมกำลังทำงานจะทำให้ท่านตกลงไปในหลุมดั่ง เช่นลูกกอล์ฟโดยทันที (ระยะเวลาแช่ประมาณ 4-6 วิแล้วแต่ดวงที่จะโดน)

เวฟที่ 2 จะเป็นดอกไม้กินคนเหมือนในด่านเกาะ ที่ควรระวังคือสกิลพ่นพิษของมันให้ดีๆดาเมจโดนจังๆที่ def 4000 คือ 3000 - 5000 เลยทีเดียวถ้าน้อยกว่านี้ก็จะแรงไปตามลำดับ

เวฟที่ 3 จะเป็นฝูงออร์คตาเดียวประมาณ 4 ตัว (ขออภัยจำไม่ได้) ที่ควรระวังคือการฟาดของมันนี่แหละครับที่ def 4000 โดนฮิตละ 10,000 - 11,000 เลยทีเดียว


Tips: 1. สำหรับคนที่ตกลงไป คนอื่นสามารถช่วยได้โดยการกดแท่นข้างๆหลุม (ตามภาพแรก) จะเห็นได้ว่ามีอยู่ 2 แท่นกดแท่นใดแท่นหนึ่งเท่านั้นก็จะช่วยคนออกมาจากหลุมได้ (ระวังตกเองละกัน)
2. สำหรับคนที่ตกลงไปแล้ว และเ้พื่อนๆไม่สามารถจะวิ่งไปกดได้ทันเวลาถ้าเป็นสาย Paladin หรือ Cleric จะสามารถกดสกิล Block เพื่อกันดาเมจได้ หรือแม้กระทั่งสายดาบที่สามารถกดสกิลอมตะได้หรือสกิลอื่นๆเช่น Parry, Stance of Faith, Iron will
3. ข้อนี้สำคัญที่สุด !!!! ห้ามโดดลงหลุมเล่นเมื่อสามารถผ่านด่านได้แล้วมิฉะนั้นคนโดดลงไปจะบัคครับไม่สามารถกลับขึ้นมาได้ !!!!!
คลิปประกอบการตาย

-------------------------------------------------------------------------------------------------
Stage 3 : Lava Golem
จากประสบการณ์ของผู้เขียนด่านนี้เป็นด่านชี้เป็นชี้ตายเลยก็ ว่าได้ เรียกได้ว่าถ้าตายด่านนี้คือจบในทันที (เพราะตายทีตายหมู่แน่นอน) Key ของด่านนี้อยู่ที่ความสามัคคีครับ โดยปกติแล้ว Sea dragon nest ต้องใช้ความสามัคคีเป็นหลักอยู่แล้วแต่ว่าด่านนี้ต้อง "โคตร" สามัคคีเลยก็ว่าได้ ความยากของด่านนี้ผมให้ระดับ A เลยทีเดียว (มีถึง S นะครับไม่ต้องห่วง) เพราะถ้าคนใดคนหนึ่งเกิดแตกขบวนแล้วล่ะก็ตายหมู่แน่นอนคร้าบบบบบ !!! เรามาดูกันเลยดีกว่า
image
เมื่อเข้ามาในด่านเราจะเห็นแท่นต่างๆตั้งอยู่รอบๆด่าน โปรดสังเกตให้ดี (อันดับแรกสิ่งที่ต้องทำในด่านนี้คือการซูม mini map ที่อยู่ด้านล่างเสียก่อนเพื่อกันการหลงแท่นและง่ายแก่การดู) พอเข้ามาเราจะเห็นโกเลมยืนอยู่ให้รีบเข้าไปโจมตีมันเลยครับมีเวลาประมาณ 20 - 25 วินาทีในการโจมตีครั้งแรก (ระวังเรื่องเวลาให้ดีนะครับ คำนวณเวลาวิ่งกลับแท่น + การใช้สกิลต่างๆให้ดีเสียก่อน) และเมื่อถึงเวลาก่อนที่ลาวาจะพุ่งขึ้นมาให้ทุกคนรีบประจำแท่นก่อนที่เวลาจะหมด (มีเวลาให้ประมาณ 5 วินาทีเท่าันั้นเมื่อลาวาเริ่มขึ้น) ส่วนการขึ้นแท่นดูจากภาพด้านล่างได้เลย

image

จากภาพด้านบนจะเห็นได้ว่าเราแบ่งแท่นต่างๆตามรูปแบบของนาฬิกา โดยแบ่งเป็น 12,1,3,5,6,7,9,11 โดยทุกๆแท่นสามารถยืนได้แค่ 1 คนเท่านั้น (วิญญาณไม่นับและไม่แนะนำให้วิญญาณขึ้นไปยืนบนแท่นด้วยเพราะคนอื่นจะเห็นคุณในมินิแมพว่าอยู่บนแท่น) ถ้าเกิดยืนซ้อนกัน 2 คนในระหว่างที่ลาวาขึ้นมาเต็มปริ่มแล้วนั้น ทุกคนจะ "ตาย" เลยนะครับ เอาล่ะเรามาเข้าถึงจุดสำคัญของด่านนี้กันเลยดีกว่า

ตำแหน่ง 12 : ควรจะเป็นตัว Tank หลักของทีมเลยก็ว่าได้เพราะบอสตัวนี้เรียกได้ว่าอัดแรง (มาก) รองจากโกเลมต้นไม้เพียงตัวเดียว (ไม่นับซีดราก้อน) และตำแหน่งนี้จะทำให้พวก DPS ( Damage per second) สามารถตีข้างหลังของบอสได้อย่างสบายใจ

ตำแหน่ง 5,6,7 : ควรจะเป็น Damage ครับเพราะถ้า Tank อยู่ในตำแหน่ง 12 แล้วตัวบอสจะหันหน้าเข้าตัว Tank และจะหันตูดออกมาให้พวกเราได้ตีกันได้อย่างสบายใจเลยทีเดียว สังเกตได้ว่าตำแหน่ง 5,6,7 นั้นอยู่ด้านล่างของมินิแมพเลยทีเดียวห่างจากบอสไกลมากกกก !!

ตำแหน่ง 1,11,3,9 : ควรจะเป็นพระและอาชีพที่เหลือ เหตุผลที่ผมตั้งไว้แบบนี้เป็นเพราะพระจะสามารถปักเสาแก้ status ได้ทั่วถึงครับถ้าอยู่ในตำแหน่ง 3 และ 9 ส่วนอีก 2 แท่นที่เหลือให้ใครขึ้นไปก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะบอกสาเหตุที่พระึควรจะปักเสาแก้ Status ต่อไปในคำอธิบายข้างล่างนี่

How to? : การโจมตีโกเลมนั้นแนะนำให้ตีให้มันไวที่สุดครับเพราะบอสตัวนี้นอกจาก critical resist จะเยอะแล้วความแรงในการอัดยังแรงยิ่งนักแถมยังมีการขึ้นแท่นให้ลุ้นอีกทุกๆ 30 วินาทีเพราะฉะนั้นการฆ่าให้เร็วที่สุดจะเป็นการลดความเสี่ยงของการขึ้นแท่น ไม่ทันไปในตัวด้วยส่วนการขึ้นแท่นนั้นแต่ละรอบจะมีเวลาให้ประมาณ 45 วินาทีแต่แนะนำว่าพอถึง 30 วินาทีแล้วให้รีบวิ่งขึ้นโดยทันทีกันการหลงแท่นและพลาดกระโดดขึ้นไม่ทันนะ ครับ (ห้ามยืนทับที่กัน !!!) ส่วนของบอสนั้นจะมี 6 สกิลหลักๆเลยครับคือ

1. สกิลต่อยลงพื้น : สกิลนี้ไม่ต่างจากโกเลมใน Manticore หรือว่าในดันปกติคือการต่อยลงพื้นดาเมจกระจายรอบตัว แต่ว่าจะมีเสาไฟติดมาด้วยครับสามารถหลบได้ด้วยการบลิ้งหรือกระโดดหลบ ท่านี้ดาเมจต่ำครับ

__________________________________________________________________

2. สกิลไฟบอล : เหมือนกับสกิลไฟบอลของ Elemental เลยครับสามารถหลบได้ด้วยการบลิ้งหน้าหรือหลังหรือข้างก็ได้ ดาเมจประมาณ 5-6k เลยทีเดียว
__________________________________________________________________
3. สกิลวงแหวนไฟ : (เรียกไม่ถูก) เป็นการระเบิดไฟไปรอบๆตัวครับ โดยดาเมจอยู่ที่ประมาณ 9 - 12k เลยทีเดียวและมันจะใช้เมื่อเราอยู่ตรงแท่นครับ สามารถผลักเราให้ตกแท่น + status ติดไฟอีกต่างหาก (ของแถมเพียบ) และส่วนใหญ่มันจะร่ายหลังจากที่อยู่ในช่วงที่ปลอดภัย ที่สามารถลงมาตีโกเลมได้แล้ว (ตอนลาวาลดลงไปแล้ว) เพราะฉะนั้นเมื่อเห็นตัวอักษรขึ้นบนจอ ให้รีบลงจากแท่นเลยครับ ถึงจะเห็นลาวาอยู่แต่ว่ามันไม่เกิดดาเมจแล้ว มิฉะนั้นก็รับวงแหวนไฟไปเต็มๆ -0-
__________________________________________________________________
4. สกิลพลิกพื้น : สกิลนี้ไม่มีอะไรมากครับส่วนใหญ่บอสจะใช้ในช่วงแรกๆคือการพลิกพื้น เมื่อเราโดนจะล้มลงและจะมีดาเมจตามมาหลังจากพลิกแล้วประมาณ 2 วินาที ท่านี้หลบโดยการสไลด์ครับ
__________________________________________________________________

5. สกิลวิ่งชน : เมื่อบอสเหลือเลือดประมาณ 2-3 หลอด (ผู้เขียนจำไม่ได้ครับแต่ประมาณนี้แหละ) บอสจะวิ่งชนเราเหมือนกับไอ้ออร์คไฟฟ้าในด่าน Apocalypse คือบอสจะวิ่งชนเราแต่ต่างจากออร์คไฟฟ้าคือ แทนที่มันจะปล่อยบอลไฟไปข้างๆแต่มันจะเป็นออร่าไฟรอบตัวมันเลยครับ ดาเมจ แรง - แรงมาก (10-20k) และติด status burn อีกด้วย วิธีหลบนั้นแสนง่าย คือให้คนที่โดนบอสล็อคเป้าไว้วิ่งไปหลังแท่นที่ยืน เพราะบอสไม่สามารถกระโดดข้ามแท่นมาได้  และให้พวกที่เหลือตีด้านหลังได้ตาม สบายเลยครับ
__________________________________________________________________ 6. สกิลดีดไฟ : สกิลนี้บอสจะใช้เมื่อเหลือเลือดประมาณ 1 หลอด เหมือนกับของ Elemental ทุกอย่างคือถ้าเราติดสถานะ Burn จะโดน damage โดยท่านี้ ถ้าโดนคือ "ตาย" ในทันทีครับ (ทดสอบมาแล้วจาก Paladin เลือด 130k) เพราะฉะนั้นในหลอดสุดท้ายนี้ Priest จะสำคัญมากครับ (สำคัญทุกหลอดแหละเอาจริงๆ) โดยการปักเสาแก้ status หรือ miracle เพื่อลดดาเมจจากการดีดแน่นอนว่า Priest ตัวเดียวคงไม่ทันแน่ๆเพราะฉะนั้นควรมีอย่างน้อย 2-3 คนในการสลับกันปักหรือถ้ามี 2 คนจริงๆก็แนะนำให้ F.users ใช้สกิลลดคูลดาวน์เพื่อที่จะได้แก้ status ก่อนที่จะขึ้นแท่น เพราะบอสมีโอกาสใช้ดีดบนแท่นด้วยนะครับ ตายหมู่สถานเดียวถ้าโดนเข้าไป หรือว่าจะให้ Mercenary ใช้สกิล Highlander เพื่อลบ status burn ออกเพื่อป้องกันการโดนดีดได้เช่นกัน


วิธีตีบอสก็พยายามตีจากข้างหลังมันครับโดย Paladin จะต้องคอย provoke ไว้ตลอดเพื่อให้เหล่า damage โจมตีได้อย่างสบายใจและการขึ้นแท่นให้ระวังเรื่องระยะเวลาด้วย โดยส่วนมากจะเผื่อไว้ประมาณ 10 วินาทีในการวิ่งกลับแท่นหรือเมื่อเริ่มมาให้ทุกคนไปประจำแท่นของตนเองก่อน (กันหลง) แล้วค่อยเริ่มลงมือตีก็ได้ และที่สำคัญที่สุดคือการตีทุกๆครั้งควรจะมีเสาแก้ status ทุกครั้งด้วยครับ และ ที่สำคัญที่สุดเมื่อบอสเหลือเลือด 2 หลอดสุดท้ายให้พระสลับกันปักเสา status ให้ดีเพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะดีดไฟเมื่อไหร่ (ถ้าดีด ตายหมู่)

Tips:
1. แต่ละรอบในการตีบอสมีเวลาประมาณ 30 วินาที ( 15 วิกันพลาดหรือจะตี 35 วิและ 10 วิขึ้นแท่นก็ได้ ไม่ควรเกินจากนี้เพราะเสี่ยงเกินไป)
2. Paladin ที่ตำแหน่ง 12 ควรจะ Provoke ไว้ตลอด
3. ห้ามใช้สกิลดังต่อไปนี้เวลาลงมาตีบอส >> Stance of Faith (Paladin) , Hacking Stance (Sword Master) เพราะจะทำให้โดดขึ้นแท่นไม่ได้
4. ไม่แนะนำให้อาชีพอื่นตีบอสระหว่างอยู่บนแท่นเพราะว่าบอสมีสกิลผลักตกแท่นนะ ครับโดยส่วนมาก Paladin จะล่อไว้เพราะมีสกิล Block ถ้าอาชีพอื่นคุณอาจจะร่วงและพาคนอื่นตายหมู่ได้ทันที
5. ถ้าวิ่งขึ้นแท่นไม่ทันหรือว่ารู้สึกว่าตัวเองมั่วแท่นแนะนำว่าให้ "ออก" ไปก่อนที่ลาวาจะเริ่มขึ้นมานะครับ
6. สกิล Highlander ของ Mercenary สามารถกัน status ไฟได้นะครับ
7. สกิลดีดไฟของโกเลมทะลุทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น Stance of faith, Avatar, Block และสกิลหลบต่างๆ

คลิปประกอบการล่า >>>

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Stage 4 : Transform Cerberus
Stage นี้ไม่มีอะไรยากครับสิ่งสำคัญที่จะผ่านด่านนี้คือแทงก์ถึกๆ 555+ และเสาของพระ (ทุกสกิลเสา) ที่จะขังหมาไม่ให้ออกมาจากพื้นที่และเพื่อที่จะลดดาเมจจากบางสกิล
ด่านนี้ให้ระวังอย่าให้สติหลุดพอตีเพลินอาจจะตายได้เพราะดา เมจจากบางสกิลสูงถึง 4 หมื่นและลูกน้องแต่ละตัวก็ไม่ได้ตีเบาไปกว่าหัวหน้าเลยซักนิด สำหรับความยากของระดับนี้อยู่ที่ C เท่านั้น เรามาดูกันเลยดีกว่า


image

มื่อเข้ามาใน ด่านนี้จะแยกเป็น 2 ทางคือซ้ายและขวา ส่วนใหญ่คนไทยจะนิยมไปทางขวา แต่ทางเซิฟเวอร์เกาหลีและคนเกาหลีส่วนใหญ่จะนิยมไปทางซ้าย ทั้ง 2 ทางแทบจะไม่มีอะไรต่างกันเลยนอกจากพื้นที่ยืน (ปัจจุบันผู้เขียนยังไม่เข้าใจว่าทำไมเกาหลีชอบไปซ้าย)

image

ระหว่างที่เรากำลังวิ่งเข้านั้น หมาก็จะเกิดมาด้านหลังและวิ่งตามมา ณ ตอนนี้ห้ามทำการโจมตีใดๆทั้งสิ้นจนกว่าหมาจะวิ่งเข้าไปจนถึงสุดทางเดิน เมื่อถึงประมาณครึ่งทางแล้ว ให้ทุกคนที่ไม่ใช่ตัว Tank วิ่งสวนหมาออกไปในทันที เพราะ ดาเมจจากหมานั้นถือว่าแรงถึงแรงมาก (ถ้าโดน) ซึ่งแต่ละท่า ถ้าไม่ใช่ตัวแทงค์ แทบไม่มีความจำเป็นต้องโดนเลยทีเดียว เรามาดูวิธีตีกันดีกว่า

image

ทันทีที่เรามาอยู่ข้างหลังของมันแล้ว (ตีตูดอีกแล้วนั่นเอง ไม่ต่างจากโกเลมไฟเลย) ให้ตัว Tank ที่อยู่ด้านในเริ่ม Provoke เพื่อล่อให้มันหันตูดออกมา จากภาพเราจะเห็นได้ว่ามีเสาพระกั้นไว้อยู่เสา นี้เป็นสกิลสำคัญสกิลหนึ่งในการเคลียร์ด่านนี้ก็ว่าได้ เพราะหมาจะไม่สามารถเดินออกมาจากบริเวณที่เสาปักได้ เพราะฉะนั้นมีเท่าไรปักไม่ยั้ง ยิ่งเป็นเสา miracle จะยิ่งดีมาก ส่วนท่าที่ต้องระวังมีแค่ 2 ท่าเท่านั้นคือท่าเห่าและท่าบอลไฟฟ้า ทั้ง 2 ท่าดาเมจต่างฟ้ากับเหวเลยทีเดียว ดาเมจจากการเห่าไม่ถึง 500 ก็ว่าได้ ดาเมจจากบอลไฟฟ้าคือ 30,000 - 40,000 เลยทีเดียวและอีกท่าที่ควรระวังคือถ้าเกิดตัว Tank ด้านในไม่สามารถ Provoke ได้ทันหรือว่าพระปักเสาไม่ทัน หมาอาจจะหลุดนอกกรงและออกมากระโดดเหยียบได้ดาเมจจากการกระโดดเหยียบคือ 10,000 - 40,000 (ขึ้นอยู่กับดวงคนโดนว่ามันจะติดคริมั้ย) แต่ทว่าเห่านั้นมีอันตรายถึงชีวิต เรามาดูกันว่ามันถึงชีวิตยังไง

image
สังเกตได้ว่าพอเราโดนสกิลเห่าของหมา เข้าไป เราจะกระเด็นถอยหลังมาไกลจากตัวมันทีเดียว วิธีกลับก็ให้วิ่งกลับเข้าไป ไม่มีอะไรยากใช่มั้ย? แต่ถ้าเกิดว่าคุณกระเด็นออกนอกแมพล่ะ ผมจะให้ดูพื้นที่ที่กระเด็นออกนอกแมพก่อนละกันครับ

image

อันนี้คือเส้นเขตแดนของความเป็นตายพูดง่ายๆถ้าข้ามไอม่วงๆนี้ไปเท่ากับว่าเป็นผีรอได้เลยครับ ดาเมจคือทีเดียว ตาย !!!!!!
image

ภาพด้านบนคือ วิธีการยืนของตัว Tank นะครับโดยที่ Tank จะพยายามยืนที่มันเป็นมุมที่เวลาโดนเป่าจะไม่กระเด็นไกลออกไปจากตัวของหมา มากนักและ Tank ที่ดีควรจะมี def ซัก 5000 - 6000 และ Provoke ควรจะเลเวล 8 ในกรณีที่ไม่ใส่เพลท (+ ระยะเวลาในการดึง 50%) ถ้าใส่เพลท เลเวล 7 ก็คงเพียงพอต่อการล่อไม่ให้มันหันกลับไปหาเพื่อน (ดึงได้ประมาณ 20 กว่าวิ) หรือถ้าไม่มีสกิลเหลือจริงๆก็ใช้ 2 คนในการดึงโดยผลัดกันใช้สกิล และตัว Tank ควรจะมีสกิลสำหรับวิ่งเข้ามุมด้วยเพราะทุกครั้งที่หมาโจมตีมันจะผลักเราออก จากจุดที่เราควรจะยืนทำให้เราต้องกดเดินหรือสกิลเพื่อวิ่งเ้ข้าไปที่จุด เดิม  (Tip: แนะนำสำหรับ Paladin คือสกิล Shield Charge) วิธีตีบอสก็ไม่ยากอะไรแค่ตีตูดไป เรื่อยๆและคอยระวังท่าจากหมาให้ดีๆ ด่านนี้แทบไม่มีอะไรยากเลยฮะเหมือนเป็นด่านให้พักผ่อนก่อนจะถึงนรกข้างหน้า มากกว่า -_-'' เมื่อตีหมาตายเราก็จะไปสู่ด่านต่อไป ซึ่งเป็นอะไรที่วัดดวงมากๆ และคนไทยกับเกาหลีดันชอบต่างกันซะงั้น -_-''

Ps. สำหรับด่านนี้ผมไม่ได้ถ่ายคลิปมานะฮะเพราะว่าเสาเยอะมากกกก จนทำให้แลคเลยทีเดียวยิ่งถ่ายคลิปยิ่งทำให้แลคยิ่งขึ้นเสี่ยงต่อชีวิต ผู้เขียนจึงขออภัยมา ณ ที่นี้

Tips:
1. หมามีดาเมจไม่แรงมากสำหรับตัว Tank แต่สำหรับคนอื่นผมว่าแรงทีเดียว
2. ตัว Tank และพระต้องพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดอย่าให้ขาดทั้ง Provoke และ เสา
3. ลูกน้องของหมาแต่ละตัวนั้นมีท่าอันตรายเพียงท่าเดียวคือ ยิงลูกไฟ ซึ่งมันใช้เวลานานกว่าจะใช้ 1 ทีเพราะฉะนั้นรีบตีให้มัน cancel ท่าก่อนเพราะดาเมจจากลูกไฟแรงพอๆกับบอลไฟฟ้าของหมาเลยทีเดียว
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Stage 5 : Random !!

เมื่อมาถึงด่าน 5 (ถ้าถึง) ก็จะมีด่าน random ด้วยกัน 2 ด่านซึ่งแต่ละด่านก็มีความยากของแต่ละอันต่างกันออกไปแต่โดยรวมแล้วยากทั้ง คู่อยู่ดีเรามาดูกันที่ด่านแรกเลยดีกว่า

Stage 5.1 : 3 Brothers' Lizards
ในรอบที่ 5 นั้นจะเป็นการ random ระหว่าง 2 ด่านคือกิ้งก่ากับวัวนะครับ ในด่านนี้เราจะสู้กับกิ้งก่าทั้ง 3 ชนิดครับคือ เหล็ก,น้ำแข็ง,และสายฟ้า ทั้ง 3 ชนิดมีอย่างนึงที่เหมือนกันคือการโจมตีที่รุนแรงแต่ว่าท่าแต่ละท่าของมัน สามารถหลบได้โดยง่ายครับ (ไม่ต่างจากกิ้งก่าในดันเลยแค่มันออกมา 3 ตัว) แต่ว่าเกราะของแต่ละตัวจะไม่เท่ากันรวมถึงเลือดด้วยทำให้ด่านนี้เป็นที่ปวด หัวสำหรับชาวไทย แต่สำหรับชาวเกาหลีนั้นเค้ากลับชอบด่านนี้มากกว่าอีกด่านนึงนั่นคือ วัว นั่นเอง ความยากของด่านนี้อยู่ที่ระดับ A- เลยทีเดียวเพราะว่า้ต้องอาศัยความสามัคคีซักนิดในการโจมตีและทำหน้าที่ของ แต่ละฝ่ายให้ดีที่สุด เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า !!

image

เมื่อเข้ามาถึงจะมีเวลาให้เราเตรียมตัวประมาณ 3-5 วินาทีในการบัฟหรืออะไรต่างๆโดยที่พอเริ่มมานั้นให้ทุกคนหยุดการตีทันทีและ ให้ตัว Tank เพียงแค่ 1-2 ตัวเท่านั้นเป็นคนตีกิ้งก่าเพื่อที่จะดูว่าแต่ละตัวมีเกราะและ hp ตัวละเท่าไรหรือจะตีให้ตายทั้งหมดก่อนเลยก็ได้เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าตัวไหน ตายก่อนหรือตัวไหนตายหลังหรือจะดูวิธีการเกิดคือตัวที่เกิดก่อนจะมี Hp มากที่สุดและตัวที่เหลือก็ตามลำดับ เพราะในการเคลียร์ด่านนี้นั้นจะเหมือนตรง Orge 2 ตัวของ Cerberus คือต้องฆ่าพร้อมๆกัน ใน กรณีนี้คือเราต้องฆ่ากิ้งก่าทั้ง 3 ตัวพร้อมๆกันนั่นเอง  เมื่อเรารู้ว่าแต่เราตัวมี hp เท่าไรแล้วให้ปฏิบัติดังรูปข้างล่างต่อไปนี้โดยเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งเท่า นั้น
1.

image 

image

สังเกตได้ว่ารูปแมพนั้นเป็นรูปวงกลม ทำให้ยากต่อการหามุมที่จะแยก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถมนุษย์อยู่ดี เรามาดูเคล็ดลับของแต่ละวิธีกันดีกว่า
วิธีที่ 1 คือในกรณีที่มีตัวที่สามารถ Tank ได้ถึง 2 ตัว (Spec ขั้นต่ำของตัว Tank ดูได้ที่ rep ด้านบนหรือเทียบเท่าที่จะ Tank หมาได้) ให้ตัว Tank รองลากตัวที่เกราะอ่อนและเลือดน้อยที่สุดออกไปยังมุมใดมุมหนึ่ง(สีเหลือง) ในกรณีในรูปคือมุมด้านบนนะครับโดยทุกคนห้ามตีตัวนั้นเด็ดขาดโดยให้ตัว Tank รองหรือตัวที่มีดาเมจเยอะหรือค่า Delay เยอะอัดมันให้ตายตลอด และตัว Tank หลักให้ลากตัวที่มีเลือดมากกว่าตัวที่เลือดน้อยที่สุดออกไปอีกมุมหนึ่ง(สีส้ม) ภาพข้างบนคือการลากไปด้านขวานะครับ ส่วนที่เหลือให้ลากมาอีกมุมหนึ่งซึ่งจะเป็นตัวที่เลือดเยอะและเกราะหนาที่สุด (สีแดง) เมื่อ เราสามารถแยกมันออกไปได้แล้ว สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นตัว Tank ให้เริ่มทำการโจมตีได้เลยครับโดยที่เราจะตีตัวเกราะหนาที่สุดก่อน และ ตัวที่เหลือจะยังไงก็ได้ครับแต่ว่าให้เน้นตัวที่เลือดและเกราะหนาที่สุดก่อน เป็นหลักส่วนตัวอื่นจะตายก็ช่างมัน ถ้ามันเกิดใหม่เราก็มุ่งไปหาตัวที่เกราะหนาที่สุดก่อนและอีก 2 ตัวก็ให้ Tank ล่อไปเมื่อเลือดเหลือถึงหลอดสุดท้ายแล้ว สำหรับตัวที่เกราะหนาที่สุดในกรณีที่เป็นตัวที่ไม่ใช่ตัวเหล็ก ให้พยายามอย่าอยู่ห่างมันครับและให้ลากตัวที่เป็นเหล็กเข้ามาใกล้ตัวที่ เกราะหนามากที่สุดก่อนเพราะถ้าเราเดินออก จากระยะโจมตีของมันแล้ว มันจะใช้ท่าตีหมู่ครับ ความแรงประมาณ  6000 - 9000 แต่ว่าความรัวเหมือนโดน Pinpoint Shot ก็ไม่เชิง

__________________________________________________________________

วิธีที่ 2 คือในกรณีที่เรามีตัว Tank เพียงตัวเดียวครับ ให้ตัว Tank ลากตัวที่เกราะอ่อนและเกราะปานกลางออก จากวงของเราครับ และให้ตัว Tank ลากไปที่มุมใดมุมหนึ่งและเราควรจะอยู่ห่างจากตัว Tank พอสมควรเลยทีเดียวเพื่อป้องกันการโดนสกิลหมู่ครับ (ยิ่งห่างมาก สกิลยิ่งเบา + บางทีจะไม่โดนด้วยซ้ำ) วิธีนี้ดูเหมือนจะง่ายกว่าวิธี 1 นะครับแต่ว่ามันสำคัญที่ตัว Tank นี่แหละครับต้องคอย ตีมันตลอดเวลา (ห้าม Provoke เนื่องจากระยะ Provoke ไกลโคตรอาจจะทำให้ตัวอื่นวิ่งมาได้) และเมื่อถึงเวลารวมนี่ให้ตัว Tank ลากมาใส่นะครับเพราะว่าถ้าให้คนที่อยู่อีกส่วนหนึ่งลากแล้ว อาจจะมีคนที่เกราะป้องกันอ่อนหรือ hp ไม่พอโดยเฉพาะนักเวทย์โดนไอเจ้าตัวที่เกราะแข็งที่สุดซัดร่วงซะก่อนนะครับ __________________________________________________________________
วิธีที่ 3 คือในกรณีที่เราไม่อยากจะลากรวมประมาณว่าเจอตัวไหนตีตัวนั้นไปเลยตายช่างมัน ให้มันเกิดใหม่ แต่เราก็ยังคงเน้นไปการโจมตีที่ตัวที่มีเกราะ + เลือดมากสุดอยู่ดีโดยที่ถ้าทุกตัวตายแล้วเราจะมีเวลาประมาณ 10 วินาทีในการตีตัวที่เกราะหนาที่สุด (Tips : Force Users + Acrobat ใช้ได้ดีมากในด่านนี้เพราะช่วยเพิ่มความไวในการตีในขณะที่เรามีเวลาแค่ 10 วิยัดทั้ง Accel และลดคูลดาวน์โลด)
__________________________________________________________________

เมื่อเราสามารถลากมารวมได้แล้วโดยที่เลือดอีก 2 ตัวจะเป็นยังไงก็ช่างให้ใช้ทุกอย่างเท่าที่มีเลยครับที่สำคัญที่สุดคือเสา Miracle ของพระและอัลติของทุกอาชีพครับ ใส่ไปให้ตัวที่อึดที่สุดตายก่อนเลยครับ ถัดมาก็ตัวที่อ่อนลงมาหน่อยโดยส่วนตัวแล้วถ้าไม่ใช่ตัวถึกที่สุดพวกนี้จะตาย ง่ายมากครับ และตัวสุดท้ายคือตัวที่อ่อนที่สุด (โดนแป๊ปๆร่วงจริงๆ) เมื่อเราสามารถฆ่าทั้ง 3 ตัวพร้อมกันได้แล้วนั้นเราก็จะผ่านสู่ด่านต่อไป (ถ้าไม่เข้าใจก็ให้ดูคลิปประกอบนะครับแต่ในคลิปนี่ตายครับเพราะดันออกห่าง จากตัวที่แข็งที่สุดเลยเริ่มฉลาดว่าให้ตัว Tank ลากมาดีกว่า) Tips:
1. กิ้งก่าไฟฟ้าและกิ้งก่าน้ำแข็งมีสกิลหมู่สามารถสกัดได้ด้วยการอัดสกิลแรงๆใส่หรือหลบใกล้ๆตัวมัน (คล้ายๆกับของออร์คไฟฟ้าอโพเลย)
2. ดาเมจจากกิ้งก่าถือว่าแรงมากแต่ก็สามารถหลบได้ง่ายเช่นกัน
3. เสา Miracle ช่วยให้ทุกคนรอดตายจากการโดนสกิลหมู่เพราะฉะนั้น พระสำคัญอีกแล้ว (ถ้ารอดมาถึงนี่)
4. พยายามตีตัวที่เลือดมากที่สุดให้เลือดลดให้ไวที่สุดเพราะจะลดความเสี่ยงจากการโดนอีก 2 ตัวมาตีได้
5. Aura ของพาลาดินจะมีกันธาตุไฟ/น้ำ และออร่าแสง ซึ่งสามารถลดดาเมจจากกิ้งก่าไฟฟ้าและน้ำได้เนื่องจากท่าหมู่้ของมันเป็นการ โจมตีธาตุน้ำและธาตุแสง
6. ห้าม Provoke เนื่องจากระยะ Provoke ไกลโคตรอาจจะทำให้ตัวอื่นวิ่งมาได้

คลิปประกอบการตาย :

-------------------------------------------------------------------------------------------------
Stage 5.2 : Dancing Cows
ในส่วนของอีกด่านหนึ่ง ของรอบที่ 5 คือการเจอวัวเต้นครับ ในด่านนี้จะคล้ายๆกับโกเลมของแมนติคอร์คือเราต้องทำการตีเสาทั้งหมดก่อน ที่จะตีตัวบอสได้และรอบๆตัวบอสจะมีออร่าถ้าเราวิ่งไปโดนนั้นจะทำให้บอสปล่อย วัวออกมา (คล้ายๆกับสกิลปล่อยวัวเลยฮะแต่เป็นฝูง) ส่วนบอสวัวนั้นจะเหมือนวัวแดงในดัน Nest เลเวล 24 เลย ยกเว้นมีบางสกิลที่เพิ่มขึ้นมาเช่นปล่อยวัว ทำให้เราเต้น เป็นต้น ส่วนใหญ่เกาหลีจะไม่ค่อยชอบวัวเท่าไร (ไม่รู้ทำไมแต่คนไทยชอบฮะ <3) ความยากของด่านนี้ถ้าเป็นคนไทยคงแค่ระดับ B+ เท่านั้นเนื่องจากเราต้องคอยดูวัวตลอด นอกนั้นแทบจะไม่มีอะไรแล้ว เรามาเริ่มดูกันเลยดีกว่า

image

Phase 1:เมื่อเข้ามาในฉากแล้วเราจะเห็นได้ว่าจะมีเสา่ต่างๆงอกขึ้นมาจากพื้น (วงกลมสีแดงๆทั้งหลาย) ให้เราทำการตีเสานั้นให้หมด โดยที่ ห้ามเข้าโดน aura ของวัวเด็ดขาด (ขอ อภัยที่ไม่สามารถเข้าไปถ่าย aura ให้ได้เนื่องจากผู้เขียนจะมีอันตรายจากการโดนวัวชน) aura ของวัวจะเหมือนในสวนสนุก (Rough road) ถ้าเราไปบอสจะปล่อยวัวออกมาวิ่งชนคนทั้งหมดในแมพทันทีดาเมจของการชน 1 ครั้งเท่ากับ 6000 - 15000 แล้วแต่ def ของตัวละคร (Tips: วิธีการหนีเบื้องต้นคือวิ่งเป็นวงกลมหรือวิ่งไปเรื่อยๆ แต่ห้ามซ้อนทับกันหรือจะหลบหลังเสาที่ยังตีไม่แตกก็ได้) ใน ระหว่างนั้นจะมีลูกน้องของบอสโผล่ออกมาเรื่อยๆให้เราตีแล้วระวังลูกน้องของ บอสให้ดีเนื่องจากมันเยอะมากๆและดาเมจของมันก็ไม่น้อยเลยทีเดียว (1 hit / 2000 - 4000)

Phase 2: เมื่อตีเสาหมดแล้ว อย่าเพิ่งรีบวิ่งเข้าไปตีบอส หรือ เข้าใกล้บอสเด็ดขาด เพราะ บอสจะปล่อยวัวออกมาอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้เราจึงต้องจำเป็นพึ่งเสา Miracle ของพระอีกรอบ เริ่มแรกให้พระปล่อย Miracle ไปก่อนแล้วให้ทุกคนวิ่งไปอยู่ในรัศมีของเสา Miracle และพยายามอย่ายืนห่างเสาเด็ดขาด เมื่อเราเข้ามาใกล้ตัวบอสแล้วจึงเริ่มตีอย่างเมามันส์ (Tips: วิธี Tank จะเหมือนกับ Transform Cerebus คือให้ Paladin ล่อเข้าไปที่มุมใดมุมหนึ่งของแผนที่)

ท่าของบอสจะไม่มีอะไรมากนอกจาก
                                         1. สับขวานลงมาเป็นคลื่นพลัง ( Dmg แรง)
                                         2. ปาสิ่งของใส่คน (Dmg เบาแต่รัว)
                                         3. กระทืบเท้า (ทั้งแมพ) (Dmg แรง)
                                         4. วิ่งชนทำให้มึนขยับไม่ได้ไปครู่หนึ่ง
                                         5. เหวี่ยงขวานไปรอบๆ และเกิดคลื่นพลังตามมาทีหลัง (แรงมาก)

Phase 3: เมื่อบอสเลือดเหลือประมาณ 2x บอสจะเริ่มปล่อยลำแสง freeze ทำให้เราขยับตัวไม่ได้ และจะเต้นตามบอสทันที (ไม่เข้าใจดูในคลิป) ท่านี้ดูเหมือนจะไม่มีอันตราย เพราะไม่มี Damage แต่ว่าเราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยต้องเต้นตามบอสอย่างเดียว ในขณะเดียวกันลูกน้องของบอสจะเข้ามาสับเราตอนที่เราเต้น (ไม่มีล้ม ไม่มีเด้งลอยเพราะฉะนั้นโดนเต็มๆ) วิธีหลบแสง freeze ง่ายๆคือ หลบอยู่หลัง Relic ทั้งหลาย เนื่องจากลำแสง freeze จะ random เป้าหมายประมาณ 2 - 3 คน ไม่ระบุชัดเจนเพราะฉะนั้นคนที่โดนให้พยายามคุมสติไว้ พยายามให้เพื่อนๆช่วยกันตีวัวที่ออกมาให้มากที่สุด หรือให้ พระปักเสา miracle เพื่อป้องกันการตายก็ได้

Phase 4: เมื่อบอสเหลือเลือดที่หลอด 1x หรือต่ำกว่านั้นบอสจะทำการปล่อยวัวอีกรอบ ให้เราใช้วิธีเดิมคือเสา Miracle หรือถ้า cooldown จริงๆก็ให้วิ่งหลบเอา เพราะวัวจะปล่อยออกมาเป็นชุดพยายามกะจังหวะหลบให้ดีก็สามารถหลบได้ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วครับ ให้ฆ่าบอสตามปกติ

Tips: 1. วัวที่ปล่อยออกมาจากบอสนั้นแรงมากถึงมากที่สุดพยายามอย่าโดนเพราะโดน 1 hit แล้วยาว 2. คนที่ไม่โดนลำแสง freeze พยายามตีที่ลูกน้องบอสอย่าไปตีตัวบอสเด็ดขาด (มันไม่มี dmg) 3. Priest พยายามกันสลับปักเสา Miracle เพื่อง่ายแก่การต่อสู้ 4. ด่านนี้ระวังแค่วัวที่ปล่อยออกมาเป็นเส้นกับลำแสง freeze ก็เพียงพอ และระวัง aura ขณะตีเสาด้วย
คลิปประกอบเผื่องง


อันนี้เป็นตอนที่บอสเหลือเลือด 2x ด้วย หลังจาก 1x ไม่มีขออภัยเนื่องจากเสี่ยงต่อการมีชีวิตรอดไปด่านต่อไป 



-------------------------------------------------------------------------------------------------
Stage 6 : Poison Golem Mamon

เอาล่ะและแล้วเราก็มา ถึงด่านสุดท้ายก่อนที่จะเข้าไปสะกิดต่อมน้ำเหลืองของมังกรกันแล้วนะครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน ด่านนี้ถือเป็นด่านที่ยากกกกกกกกที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะ นอกจากความแรงแล้ว ยังต้องอาศัยสเตปในการหลบท่าโจมตีต่างๆของบอสอีกด้วย แต่ถ้าเรารู้ว่าบอสจะโจมตีมายังไงก็ไม่ยากใช่มั้ยล่ะครับ? ปัญหาของด่านนี้อีกประการหนึ่งคือ ตัว Tank ต้องเก่งเลยทีเดียวเรียกได้ว่า Tank เป็น Key สำคัญของด่านนี้นอกเหนือจากนั้นก็คือเหล่า Priest และ Relic ทั้งหลาย สำหรับความยากของด่านนี้ผมให้ในระดับ S เลยครับเพราะคนส่วนมาก (รวมถึงคนเกาหลี) ก็ติดที่ด่านนี้กันซะส่วนใหญ่ หรือ ไม่ก็ตายมาจากด่านก่อนหน้านี้กันเกือบหมดแล้ว (ส่วนตัวแล้ว ด่าน 5 นั้นจะตายซัก 2 - 3 คนยังไม่เป็นไรแต่ถ้าเกิดมาโกเลมแล้วเหลือจำนวนต่ำกว่า 5 ก็ทำใจครับ : ผู้เขียน) พล่ามมาเยอะ มาดูกันเลยดีกว่า

เมื่อเข้ามาในฉากจะเห็นว่ามีแท่นรอบๆอยู่ประมาณ 4 แท่นและไม่มีมอนอะไรอยู่เลย?? ตอนแรกผู้เขียนก็แปลกใจไหนโกเลมวะ -_-'' พอผ่านไปสักพัก Mamon จะโผล่ขึ้นมาจากพื้นให้ตัว Tank กด Provoke หลังจากที่ Mamon ขึ้นมาทั้งตัวแล้วเท่านั้น ตามภาพด้านล่าง

เมื่อตัว Tank ได้ทำการ Provoke แล้วจะเห็นได้ว่าบนแท่นจะมีที่ยืนให้ Paladin ขึ้นไปยืนบนแท่นเลยครับ เหตุผลที่ให้ทำแบบนี้เพราะ Mamon ไม่สามารถกระโดดได้เหมือนบอสโกเลมทั่วๆไปเลยครับ (เคยเห็นโกเลมกระโดดมั้ยล่ะ?) และก็เหมือนเดิมให้เหล่าบุคคลที่เหลือตีบอสจากด้านหลัง (เหมือนเดิม สงสัยคนสร้างด่านชอบโดนตีตูด) ที่สำคัญคือ พยายามอย่าให้ Provoke หลุดเท่านั้น
พอตีไปสักพักก็จะมีตัวอักษรขึ้นมา ด้านบนเขียนว่าอะไรไม่รู้ แต่รู้ว่า Mamon จะร่ายเวทย์ใส่ตัว Paladin แล้วไม่ต้องตกใจ แต่ !! ห้ามทุกคนขึ้นไปโดนออร่าสีเขียวๆที่ออกมาจากตัว Paladin เด็ดขาด
Damage จากการโดน Aura > 18,000 - 30,000 ลดหย่อนตาม Def และ Mag Def (ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึง Dark Seer ใน DotA ที่เป็นสกิลร่ายใส่ creep และทำ Damage อารมณ์เดียวกัน)
ทีนี้เราจะมาถึงเรื่องสำคัญกัน เมื่อเราตีบอสไปจนจะหมดหลอดแรกแล้ว (ที่ 4x) พอใกล้ๆหมดหลอดให้ทุกคนวิ่งขึ้นไปบนแท่นที่ Paladin อยู่ทันทีโดยให้ Paladin เดินชิดขอบข้างหนึ่ง ส่วนคนที่เหลือก็พยายามชิดขอบอีกด้านหนึ่ง (ป้องกันการโดนออร่าพิษ) เมื่อเราขึ้นไปแล้วจะเห็นได้ว่า Mamon จะเริ่มปล่อยพิษลงบนพื้นที่ต่ำ พูดง่ายๆขึ้นไม่ทัน = ตาย
เมือพิษหมดเราก็ลงมาตีต่อเหมือนเดิม จนเลือดของ Mamon จะอยู่ที่หลอด 3x ในหลอดนี้ Mamon จะปล่อยรากออกมา คนที่โดนรากจะไม่สามารถทำอะไรได้ และถ้าเราช่วยเพื่อนที่โดนรากไม่ทัน เพื่อนคนนั้นมีสิทธิ์ตายได้ในทันที (วิธีช่วย : ตีจนกว่าหลอดแดงจะหมด) ส่วนวิธีหลบรากก็ง่ายๆเลยครับ Relic หรือ Mirror ของ Force User (บอกแล้วว่าพระสำคัญสุด) ดูตามรูปด้านล่างเลยครับ

จะเห็นได้ว่ารากจะพุ่งเข้าไปหาคนที่ อยู่ใกล้ที่สุดก่อน (เพราะฉะนั้นถ้าตัว Tank โดนต้องมีคนอาสาขึ้นไปตีหรือถ้ามีออร่าพิษอยู่สกิล Gravity Ball หรือยิงไกลทั้งหลายจะช่วยได้มาก) เพราะฉะนั้นถ้าเราตีอยู่หลังเสาหรือกระจกก็ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนราก หรือ ถ้าโดนก็บอกให้เพื่อนๆช่วยตีให้หลุดจากรากก่อน

ตอนนี้เราจะมาถึงหลอดปัญหาแล้ว ที่ Hp ของบอสประมาณหลอดที่ 3x - 2x Mamon จะติด สถานะ Berserk ครับ (Atk speed +75%, Dmg เพิ่มเท่าตัว) พูดง่ายๆใครเลือดต่ำกว่า 50k มีสิทธิ์ตายภายในหมัดเดียวเลยทีเดียว วิธีแก้คือ ท่า Howl ของ Mercenary ครับที่สามารถสลาย Buff + ลดดาเมจได้ด้วยครับเพราะฉะนั้นด่านนี้ไม่มี Mercenary ก็แทบจะไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีก็อาศัยการหลบเอาและเมื่อบอสเลือดเหลือประมาณ 2x นิดๆ บอสจะหลบไปใต้ดินและเรียก Zombie พิษออกมาครับให้เราตี Zombie ไปเรื่อยๆจนบอสออกมาอีกรอบก็ให้ทำตามเหมือนหลอดแรกๆคือให้ Paladin ล่อไปที่แท่นเดิมและก็พยายามระวัง + หลบ + มีสมาธิครับเมื่อบอสเหลือเลือดหลอดเดียวก็เท่ากับว่าใกล้ผ่านแล้วครับ

ตอนนี้เรามาดูท่าโจมตีของบอสกันดีกว่า

1. ทุบพื้น (ปานกลาง หลบได้ด้วยการกระโดดหรือ blink)
2. ทุบแล้วมีดาเมจตามมาทีหลัง (ปานกลาง หลบได้ด้วยการกระโดดหรือ blink)
3. กระโดดหมุนตัวเตะ (แรง บอสจะถอยหลังออกมาจากที่ที่บอสอยู่นิดหน่อยและกระโดดหมุนตัว วิธีหลบคือบลิ้งเท่านั้น)
4. หมอกพิษ (ตาย วิธีหลบตามข้างต้น)
5. รากไม้ (ตาย วิธีหลบตามข้างต้น)
6. ออร่าพิษ (แรงมาก วิธีหลบตามข้างต้น)

จะเห็นได้ว่าบอสไม่มีสกิลอะไรแปลก ประหลาดไปจากโกเลมในดันซักเท่าไรแต่ยังไงอ่านแล้วมันคงไม่เท่าของจริง ยังไงก็ขอให้ทุกท่านเดินทางด้วยความระมัดระวังเพราะหลังจากนี้ถ้าเราสามารถ ฆ่าได้ก็จะได้ Plate สกิลออร่าพิษ (กากมากใน pvp แทบไม่มีคนจะโดน) + ฉายา +50 Phys Atk และ 30 All stats อีกด้วย ต่อไปก็ถึงคราของ Sea Dragon แล้ว

Tips:
1. Relic พระสำคัญเสมอ แต่ปัจจุบันเกาหลีได้ปรับให้ Relic มี hp แล้วเพราะฉะนั้นปักแต่ละทีให้ระวัง
2. Berserk ของ Mamon โหดมากพยายามอย่าโดนแม้แต่ hit เดียวหรือใช้ Miracle เพื่อลดดาเมจลงมาบ้างก็ได้
3. Force Users พยายามใช้ Accelerate ตลอดเวลา (ลดคูลดาวน์)
4. Mercenary สำคัญมากๆๆๆในด่านนี้
5. ความเร็วถือเป็น Key สำคัญเช่นกันเพราะยิ่งฆ่าไวยิ่งลดความเสี่ยงในการตายได้มาก

Credite : คุณ Fate Guild : Dark&Light New Generation!!! [Korea Server]
http://bbs.playinter.com/viewthread.php?tid=11145&rpid=395864&ordertype=0&page=1#pid395864

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สามารถติดตามข้อมูลเกมและการUpdate บทความ Dragonnest-Cafeได้ช่องทางต่อไปนี้

Facebook:Dragonnest-Cafe Blogfansite th (follow me from fanpage)
Twitter:Dragonicafe (follow me from twitter)
Google+:Jsmaster(search and follow me)

ติดตามข่าวสารเกมผ่าน+Dragonnest-Cafeที่นี่ครับ