อาวุธพื้นฐาน เลือกให้เป็น ใช้ให้ถูก เทพ!!(Cleric Class)

สวัสดีครับในบทความนี้จะเป็นบทความที่สองแล้วนะครับแต่จะเป็นของ Cleric Class ผมจะไม่อธิบายมากความนะเพราะได้อธิบายแบบคร่าวๆในบทความการคิดจากบทความที่หนึ่งของ Warrior Class ไปแล้ว (อ่านได้จากลิ้งนี้)  ก็จะลงแบบสรุปรวดเดียวจบไปเลยนะครับ หวังว่าคงจะเข้าใจกันดีนะครับ

Weapon For Cleric Class

ในคลาสนี้ของสาย Cleric นั้นจะประกอบไปด้วย อาวุญพื้นฐานก็คือ Flail,Mace,Wand ซึ่งรายระเอียดความแตกต่างของอาวุธนี้นั้น ดูได้ดังตารางภาพด้านล่างนี้ครับ

อาวุธแต่ละประเภทจะมีค่าโจมตีทั้งทางกายภาพและเวทมนต์แตกต่างกันครับดังรูป

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง P.Atk (ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งนิ่งมาก)

อันดับ 1.อาวุธประเภท Wand

อันดับ 2.อาวุธประเภท Flail

อันดับ 3.อาวุธประเภท Mace

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง M.Atk (ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งนิ่งมาก)

อันดับ 1.อาวุธประเภท Flail

อันดับ 2.อาวุธประเภท Wand

อันดับ 3.อาวุธประเภท Mace

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพสูงสุด P.Atk (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางกายภาพสูงสุด)

อันดับ 1.อาวุธประเภท Mace

อันดับ 2.อาวุธประเภท Flail

อันดับ 3.อาวุธประเภท Wand

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด M.Atk (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด)

อันดับ 1.อาวุธประเภท Wand

อันดับ 2.อาวุธประเภท Mace

อันดับ 3.อาวุธประเภท Flail

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำดีที่สุด(Min P.Atk) (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำสูงกว่าอาวุธประเภทอื่นๆ)

อันดับ 1.อาวุธประเภท Flail

อันดับ 2.อาวุธประเภท Mace

อันดับ 3.อาวุธประเภท Wand

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำดีที่สุด(Min M.Atk) (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำสูงกว่าอาวุธประเภทอื่นๆ)

อันดับ 1.อาวุธประเภท Wand

อันดับ 2.อาวุธประเภท Mace

อันดับ 3.อาวุธประเภท Flail

และเมื่อนำอาวุธสกุลเดียวกัน เลเวลเท่ากัน เกรดเดียวกัน นำมาตีบวกเท่ากัน ก็จะได้ความแตกต่างดังต่อไปนี้

อาวุธสกุลเดียวกัน เลเวลเท่ากัน เกรดเดียวกัน นำมาตีบวกเท่ากัน

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง P.Atk (ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งนิ่งมาก) ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Wand

อันดับ 2.อาวุธประเภท Flail

อันดับ 3.อาวุธประเภท Mace

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง M.Atk (ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งนิ่งมาก) ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Wand และ Flail

อันดับ 2.อาวุธประเภท Mace

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพสูงสุด P.Atk (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางกายภาพสูงสุด) ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Mace

อันดับ 2.อาวุธประเภท Flail

อันดับ 3.อาวุธประเภท Wand

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด M.Atk (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด) ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Wand

อันดับ 2.อาวุธประเภท Mace

อันดับ 3.อาวุธประเภท Flail

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำดีที่สุด(Min P.Atk) (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำสูงกว่าอาวุธประเภทอื่นๆ)  ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Flail

อันดับ 2.อาวุธประเภท Wand

อันดับ 3.อาวุธประเภท Mace

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำดีที่สุด(Min M.Atk) (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำสูงกว่าอาวุธประเภทอื่นๆ)  ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Wand

อันดับ 2.อาวุธประเภท Flail

อันดับ 3.อาวุธประเภท Mace

สรุปอาวุธของ พื้นฐาน Class Cleric

อาวุธประเภท Mace ข้อดี

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพสูงสุด P.Atk รวมถึงการตีบวก

อาวุธประเภท Mace ข้อเสีย

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง P.Atk แกว่งหรือไม่นิ่งมากที่สุด รวมถึงการตีบวก

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง M.Atk แกว่งหรือไม่นิ่งมากที่สุด รวมถึงการตีบวก

.

อาวุธประเภท Flail ข้อดี

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง M.Atk ดีที่สุด รวมไปถึงการตีบวก

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำดีที่สุด(Min P.Atk) รวมไปถึงการตีบวก

อาวุธประเภท Flail ข้อเสีย

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด M.Atk ต่ำที่สุด รวมถึงการตีบวก

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำดีที่สุด(Min M.Atk) มี Min M.Atk ขั้นต่ำน้อยกว่าอาวุธชนิดอื่นๆ

.

อาวุธประเภท Wand ข้อดี

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง P.Atk ดีที่สุด รวมถึงการตีบวกด้วย

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง M.Atk ดีที่สุด รวมถึงการตีบวกด้วย

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด M.Atk รวมถึงการตีบวกด้วย

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำดีที่สุด(Min M.Atk) รวมไปถึงการตีบวกด้วย

อาวุธประเภท Wand ข้อเสีย

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพสูงสุด P.Atk ต่ำที่สุด รวมถึงการตีบวกด้วย

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำดีที่สุด(Min P.Atk)มี Min P.Atk ขั้นต่ำน้อยกว่าอาวุธชนิดอื่นๆ

อย่างเช่นเคยครับก็จบไปกันอีกอาชีพหนึ่งแล้วนะครับสำหรับ Class Cleric คงพอจะทราบถึงอาวุธพื้นฐานของอาชีพตนเองแล้วนะครับ ว่ามีดีอย่างไรกันบ้างและควรจะเลือกใช้ให้เหมาะกับอาชีพของตนข้างหน้าใน Job2 อย่างไร และอีกอย่างหนึ่งครับ อย่าพึ่งเชื่อมั่นในบทความนี้มากนักนะครับ เพราะค่า P.Atk และ M.Atk นั้นมันค่อนข้างจะไม่เท่ากันซักเล็กน้อย ถ้าอย่างไรก็ค้นหาพิสูจน์กันได้ด้วยตัวเอง ก็จะดีครับ ดูว่าบทความนี่มันจริงหรือไม่ แต่ส่วนมากจะเป็นอย่างที่ผมเขียนครับ สุดท้ายนี้ไว้ตามอ่านกันอีกของClass ต่อไปครับท่าน

อาวุธพื้นฐาน เลือกให้เป็น ใช้ให้ถูก เทพ!!(Warrior Class)

สวัสดีครับทุกท่านชาว DGN-Cafe หายหน้าหายตากันไปพอสมควรนะครับ สำหรับบทความอัพเดทใหม่ๆ เกี่ยวกับเกม DragonNest ซึ่งวันนี้ จะมาในบทความเกี่ยวกับอาวุธพื้นฐานเป็นหลักครับ ซึ่งมีหลายท่านถามถึงอาชีพนี้ว่าอาวุธชิ้นใหนดีกว่ากัน จะเลือกให้เหมาะสมกับสายอาชีพยังไง วันนี้จะมีคำตอบให้ทุกท่านครับ

Weapon For Warrior Class

ในคลาสนี้ของสาย Warrior นั้นจะประกอบไปด้วย อาวุญพื้นฐานก็คือ Sword,Axe,Hammer ซึ่งรายระเอียดความแตกต่างของอาวุธนี้นั้น ดูได้ดังตารางภาพด้านล่างนี้ครับ

อาวุธแต่ละประเภทจะมีค่าโจมตีทั้งทางกายภาพและเวทมนต์แตกต่างกันครับดังรูป

จะเห็นได้ว่าในรูปนี้เป็นอาวุธสกุลเดียวกัน เลเวลเท่ากัน และเป็นอาวุธเกรดสีฟ้าเช่นเดียวกันครับ แต่มีความแตกต่างทางด้านการโจมตีทางกายภาพและเวทมนต์ที่ต่างกันอย่างมาก ซึ่งนั้นก็คือค่าความแกว่งหรือความนิ่งในการโจมตีสูงสุดและต่ำสุดทั้งกายภาพและเวทมนต์ซึ่งจะสรุปในหัวข้อด้านล่างดังต่อไปนี้ครับ

อาวุธประเภท Sword นั้น จะมีค่าความแกว่งหรือความนิ่งของด้านการโจมตีกายภาพ (P.Atk) 66-89 = 23

อาวุธประเภท Hammer นั้น จะมีค่าความแกว่งหรือความนิ่งของด้านการโจมตีกายภาพ (P.Atk) 46-141 = 95

อาวุธประเภท Axe นั้น จะมีค่าความแกว่งหรือความนิ่งของด้านการโจมตีกายภาพ (P.Atk) 43-91 = 48

จะเห็นได้ว่าอาวุธทั้งสามประเภทนั้นมีค่าความแกว่างหรือความนิ่งของด้านการโจมตีทางกายภาพ (P.Atk)ที่ต่างกัน โดยผมจะเรียงจากอาวุธที่มีความแกว่งหรือค่าความนิ่งทีดีที่สุดก่อน(P.Atk) นั้นก็คือ

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง P.Atk (ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งนิ่งมาก)

อันดับ 1.อาวุธประเภท Sword

อันดับ 2.อาวุธประเภท Axe

อันดับ 3.อาวุธประเภท Hammer

จะเห็นได้ว่า อาวุธประเภท Sword นั้น มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่งของการโจมตีกายภาพ (P.Atk) น้อยที่สุด นั้นก็คือ 23 ซึ่งอาวุธประเภท Sword นั้นมีค่านี้ต่ำกว่าอาวุธประเภทอื่นๆใน Class Warrior ดังนั้นถ้าเราต้องการเลือกใช้อาวุธที่มีความนิ่งของค่าดาเมจไม่แกว่งมาก เราควรเลือกใช้ อาวุธประเภท Sword ใน Class Warrior ครับ

ส่วนในด้านความแกว่งหรือค่าความนิ่งของการโจมตีเวทมนต์ (M.Atk) นั้นก็จะใช้หลักการเดียวกันกับ (P.Atk) ครับ

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง M.Atk (ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งนิ่งมาก)

อันดับ 1.อาวุธประเภท Sword

อันดับ 2.อาวุธประเภท Hammer

อันดับ 3.อาวุธประเภท Axe

จะเห็นได้ว่าอาวุธประเภท Sword นั้น จะมีค่า M.Atk นั้นนิ่งกว่าอาวุธประเภทอื่นๆ ถ้าต้องการเลือกใช้อาวุธที่มีความนิ่งในด้าน M.Atk นั้น ควรเลือกใช้ อาวุธประเภท Sword ครับ

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพสูงสุด (P.Atk)

ให้ดูที่รูปประกอบนะครับของอาวุธแต่ละประเภท ตรง P.Atk 66 – 89 นี่คือตัวอย่างครับ

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพสูงสุด P.Atk (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางกายภาพสูงสุด)

อันดับ 1.อาวุธประเภท Hammer

อันดับ 2.อาวุธประเภท Axe

อันดับ 3.อาวุธประเภท Sword

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด M.Atk (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด)

อันดับ 1.อาวุธประเภท Axe

อันดับ 2.อาวุธประเภท Sword

อันดับ 3.อาวุธประเภท Hammer

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำดีที่สุด(Min P.Atk) (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำสูงกว่าอาวุธประเภทอื่นๆ) ตัวอย่าง (Min P.Atk) Sword 66-89,Hammer 46-141,Axe 43-91

อันดับ 1.อาวุธประเภท Sword

อันดับ 2.อาวุธประเภท Hammer

อันดับ 3.อาวุธประเภท Axe

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำดีที่สุด(Min M.Atk) (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำสูงกว่าอาวุธประเภทอื่นๆ) ตัวอย่าง (Min M.Atk) Sword 69-95,Axe 48-101,Hammer 29-88

อันดับ 1.อาวุธประเภท Sword

อันดับ 2.อาวุธประเภท Axe

อันดับ 3.อาวุธประเภท Hammer

และเมื่อนำอาวุธสกุลเดียวกัน เลเวลเท่ากัน เกรดเดียวกัน นำมาตีบวกเท่ากัน ก็จะได้ความแตกต่างดังต่อไปนี้

อาวุธสกุลเดียวกัน เลเวลเท่ากัน เกรดเดียวกัน นำมาตีบวกเท่ากัน

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง P.Atk (ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งนิ่งมาก) ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Sword

อันดับ 2.อาวุธประเภท Axe

อันดับ 3.อาวุธประเภท Hammer

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง M.Atk (ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งนิ่งมาก) ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Sword

อันดับ 2.อาวุธประเภท Hammer

อันดับ 3.อาวุธประเภท Axe

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพสูงสุด P.Atk (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางกายภาพสูงสุด) ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Hammer

อันดับ 2.อาวุธประเภท Axe

อันดับ 3.อาวุธประเภท Sword

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด M.Atk (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด) ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Hammer

อันดับ 2.อาวุธประเภท Axe

อันดับ 3.อาวุธประเภท Sword

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำดีที่สุด(Min P.Atk) (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำสูงกว่าอาวุธประเภทอื่นๆ) ตัวอย่าง (Min P.Atk) Sword 104-141,Hammer 46-141,Axe 77-160 ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Sword

อันดับ 2.อาวุธประเภท Axe

อันดับ 3.อาวุธประเภท Hammer

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำดีที่สุด(Min M.Atk) (ยิ่งมีค่านี้มากยิ่งมีโอกาสโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำสูงกว่าอาวุธประเภทอื่นๆ) ตัวอย่าง (Min M.Atk) Sword 89-120,Axe 60-182,Hammer 48-144 ที่ได้จากการตีบวก

อันดับ 1.อาวุธประเภท Sword

อันดับ 2.อาวุธประเภท Axe

อันดับ 3.อาวุธประเภท Hammer

สรุปอาวุธของ พื้นฐาน Class Warior

อาวุธประเภท Sword ข้อดี

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง P.Atk ดีที่สุด รวมไปถึงการตีบวก

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง M.Atk ดีที่สุด รวมไปถึงการตีบวก

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำดีที่สุด(Min P.Atk) รวมไปถึงการตีบวก

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำดีที่สุด(Min M.Atk) รวมไปถึงการตีบวก

อาวุธประเภท Sword ข้อเสีย

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพสูงสุด P.Atk  ต่ำที่สุด รวมไปถึงการตีบวก

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด M.Atk ต่ำที่สุดจากการตีบวกอย่างเดียว

.

อาวุธประเภท Axe ข้อดี

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด M.Atk

อาวุธประเภท Axe ข้อเสีย

ประเภทอาวุธที่มีค่าความแกว่งหรือค่าความนิ่ง M.Atk แกว่งหรือไม่นิ่งมากที่สุด รวมถึงการตีบวก

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำดีที่สุด(Min P.Atk) มี Min P.Atk ขั้นต่ำน้อยกว่าอาวุธชนิดอื่นๆ

.

อาวุธประเภท Hammer ข้อดี

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพสูงสุด P.Atk  รวมไปถึงการตีบวก

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์สูงสุด M.Atk   เฉพาะการตีบวกอย่างเดียวเท่านั้น

อาวุธประเภท Hammer ข้อเสีย

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางกายภาพขั้นต่ำดีที่สุด(Min P.Atk) มี Min P.Atk ขั้นต่ำน้อยกว่าอาวุธชนิดอื่นๆเฉพาะการตีบวก

อาวุธที่มีค่าโจมตีทางเวทมนต์ขั้นต่ำดีที่สุด(Min M.Atk) มี Min M.Atk ขั้นต่ำน้อยกว่าอาวุธชนิดอื่นๆเฉพาะการตีบวก

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับบทความอาวุธพื้นฐานของอาชีพ Class Warrior โดยรวมแล้วอาวุธพื้นฐานของอาชีพนี้นั้นมันจะมีค่าประมาณการโจมตีที่ไม่เท่ากันบ้างนะครับ เช่น อาวุธประเภทSword P.Atk 66-95 แต่บางอันP.Atk 62-90 แต่จะไม่ฉีกหนีกันไปไกลมากนัก ส่วนตัวผมไม่แนะนำให้เชื่อผมทั้งหมดนะครับ ลองไปเปิดดูอาวุธในมือเทียบกับคนอื่นว่าอาวุธเรา สกุลเดียวกัน เลเวลเท่ากัน เกรดเดียวกัน และบวกเท่ากันนั้น จะแตกต่างไปจากผมมากมายใหม ให้ลองทดสอบด้วยตัวเองด้วยก็ดีนะครับ ส่วนค่ำคืนนี้ขอลาไปก่อนครับ เดี่ยวพรุ้งนี้ค่อยลงของ Class ต่อไปครับ !!

เปิดเผยแหล่งที่มาWeapon/Amore

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่านในบทความนี้้ เราจะมาดูเรื่องแหล่งที่มาของ Weapon/Amore ในเกมDragonnestกันครับ ในส่วนของ Weapon/Amore นั้นแหล่งที่มาโดยรวมแล้ว ก็จะมีหลักๆจากในดันเจี้ยนและร้านค้า Shop จากบางส่วน และนอกจาก Shop และดันเจี้ยนแล้ว มันยังมีแหล่งอื่นอีกหรือไม่ ติดตามอ่านด้านล่างได้เลยครับ

ผมขอเริ่มจากแหล่งที่มาที่เราคุ้นเคยกันดีก่อนครับ นั้นก็คือดันเจี้ยนและ Shop กันครับ

Weapon/Amore ที่ได้จาก Dungeons

ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากสำหรับแหล่งที่มาของ Weapon/Amore ในแหล่งที่มาจากดันเจี้ยนนะครับ เพราะนับว่าเป็นหัวใจหลักๆ เกม Dragonnest กันเลยทีเดียว ข้อดีของ Weapon/Amore ที่ตกจากแหล่งนี้นั้น สามารถนำมาอัพเกรดได้นั่นเองครับ และที่นี่คือคลัง Weapon/Amore ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Dragonnest ครับ

แหล่งที่มาของ Weapon/Amore แหล่งใหญ่ที่สุดคือ ดันเจี้ยนครับ

Weapon/Amore ที่ได้จาก Shop ร้านค้า

นับเป็นแหล่งที่มาของ Weapon/Amore ที่เป็นพื้นฐานของทุกเกมรวมถึงเกม Dragonnest แห่งนี้ด้วยครับ  เราสามรารถซื้อ Weapon/Amore ได้จาก Shop ร้านค้าเหล่านี้ ขอดีของ Weapon/Amore  ที่ได้จาก Shop ก็คือหาซื้อได้ง่ายครับ ขอแค่มีตังในมือก็ซื้อ Weapon/Amore ได้ไม่มีปัญหา ขัดสนตีบวกแหก ไม่มีอาวุธใช้ ขอมีตังแค่นิดหน่อย Shop เหล่านี้ช่วยเหลือท่านได้ครับ ส่วนข้อเสียของ Shop ที่สามารถซื้อ Weapon/Amore นั้นก็คือ คุณภาพต่ำกว่า Weapon/Amore ที่ได้มาเกือบจะทุกแหล่ง และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ อัพเกรดหรือแยกชิ้นส่วนไม่ได้ด้วย ถ้าไม่เข้าตาจนจริงๆ ก็ให้มองผ่านแหล่งนี้ไปได้เลยครับ

Shop คือแหล่งที่มา Weapon/Amore ที่เป็นพื้นฐานของทุกเกมครับ

Weapon/Amore ที่ได้มาจากการทำเควส

นับเป็นแหล่ง Weapon/Amore อีกแหล่งหนึ่งที่ Weapon/Amore นับว่ามีคุณภาพมากกว่าแหล่งอื่นทั่วไปอยู่มาก ซึ่งในการทำเควสนั้น ก็จะได้ Weapon/Amore ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าอาวุธทั่วไป รวมถึง Weapon/Amore ที่เป็น Set ก็หาได้จากแหล่งนี้เช่นกันครับ แต่ข้อเสียหลักๆก็คือ การได้มาที่ยากลำบากเพราะต้องทำเควสและส่วนมากWeapon/Amore ที่ได้มาจากแหล่งนี้มักจะอัพเกรดไม่ได้ครับ

 

ไม่ต้อเงสียเงินซักบาทแถมได้ของดีอีกต่างหาก แต่ อัพเกรดไม่ค่อยได้น่าคร๊าบบ

Weapon/Amore ที่ได้จากการสร้างเอง

อีกหนึ่งพื้นฐานของเกมDragonnest นั้นก็คือการสร้าง Weapon/Amore ขึ้นมาเอง และแน่นอนครับมันต้องดีกว่าแหล่งพื้นฐานอื่นๆอย่างแน่นอน ทั้งในด้านประสิทธิภาพของ Weapon/Amore รูปลักษณ์ที่สวยงาม ราคาขายต่อที่แพง รวมถึงความหายากของ Weapon/Amore บางชิ้นที่น้อยคนนั้นจะมีไว้ครอบครอง แต่ข้อเสียก็คือ เราต้องหาอุปกรณ์สิ่งของมาผสมให้ได้ Weapon/Amore ชิ้นนั้นๆ รวมถึงราคาที่แพงกว่าแหล่งอื่นมากมายนักครับ แต่มันก็คุ้มที่จะหามาครอบครองครับ

ทำยาก ราคาแพง แต่คุ้มที่จะได้ครอบครอง ชิมิ!!

Weapon/Amore ที่ได้จากแลก Point

เป็นอีกหนึ่งระบบเกมของ Dragonnest ที่มีความน่าสนใจทีเดียวครับ เพราะการที่จะได้มานั้น ต้องอาศัย Point ในการนำมาแลกอุปกรณ์ ซึ่งการได้มาซึ่ง point นั้นต้องทำให้ NPC มีความพอใจโดยการให้ของแก่ NPC ในแต่ละสังกัด(อ่านระบบการให้ของได้ที่นี่) ซึ่งในอนาคตข้างหน้าจะมีหลายสังกัดให้เลือกส่งของและแต่ละสังกัดก็จะได้ของไม่เหมือนกันครับ แต่ตัวผมยังไม่รู้ถึงข้อจำกัดของแหล่งที่มานี้เช่นข้อเสียอย่างไร(ข้อมูลตรงนี้ผมน้อยครับเพราะไม่เคยไปแลกของ) เอาเป็นว่าเรารู้ว่า Weapon/Amore ที่ได้มาจากแหล่งนี้อีกหนึ่งแหล่งครับ

 ผูกมิตรกับ NPC ของแต่ละสังกัดไว้จะดีเองครับ

Weapon/Amore ที่ได้จาก Shop PvP

ในส่วนนี้ข้อมูลน้อยครับ แต่ขอเดาว่าน่าจะมาจากการเก็บ Point ในการลง PvP ไม่ว่าจะการทำอันดับในการสังหารในPvPหรือการเก็บแต้มในโหมดต่างๆ (ตรงนี้ใครเป็นขาpvpและมีข้อมูลตรงนี้แจ้ง Admin ทีนะครับ) ต้องรอดูในส่วนของ  sv ไทยว่าจะมีระบบตรงนี้มาให้ด้วยหรือไม่นะครับ

รอดูระบบนี้ใน sv ไทยก่อนนะครับ น่าจะมีมา

Weapon/Amore ที่ได้จาก Shop Item Mall

นี่ก็นับเป็นอีกแหล่งที่มาของ Weapon/Amore ของเกม Dradonnest อีกแหล่งหนึ่งครับ แต่การได้ที่จะได้มานั้นก็เป็นที่รู้กันครับว่าต้องเสียตังในการได้มา ข้อดีคือ สวย ประสิทธิภาพดี ออฟชั่นติดอาวุธดี ข้อเสียของมันหลักก็คือ มันอยู่ได้ไม่ถาวรนั้นเองครับ และนี่ก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่มีอยู่ในเกมพื้นฐาน Free to Play ครับ

อนาคตเจอกันแน่ครับ Weapon/Amore Cash Shop !!

Weapon/Amore ที่มาพร้อม Patch

ใน่สวนนี้จะเป็นการอัพเดท Patch ต่างๆของระบบครับ Weapon/Amore ที่ได้มาก็จะมาจากการลง ดันเจี้ยนเนส นั้นเอง อาจจะเป็นในรูปแบบเควสหรือตกดรอปจากบอสหรือหาส่วนผสมมาผลิตเอง(น่าจะตกจากบอสมากกว่าครับ) และแน่นอนครับในรูปของแหล่งที่มาแบบนี้ ประสิทธิภาพคุณภาพของ Weapon/Amore ย่อมเป็นที่ดีเลิศแน่นอนครับ เพราะการได้มานั้นต้องได้มาจากบอสดันเจี้ยนเนสเท่านั้น ดังนั้นหายากแน่นอนครับ

รูปด้านบนเป็นชุดเทพ Set ใหม่จาก Boss Green Dragon Karahan ใน DragonNest [KR] งามโคตร!!

ขอจบบทความนี้ก่อนเท่านี้นะครับ หวังว่าคงจะสนุกและเข้าในการเล่นเกม DragonNest บ้างขึ้นนะครับ และถ้าใครชอบบทความและอยากติดตามข้อมูลเกม Dragonnest สามารถติดตามกันได้ ที่เฟคบุคแฟนเพจของผมนะครับ เจอกันโอกาสหน้าในบทความอื่นครับ โชคดีบ๊ายบาย

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.dragonnestwiki.com

Guide แนะนำมือใหม่หัดลุย!!

สวัสดีครับทุกท่านเป็นอย่างไรบ้างกับ CB ในวันนี้ สนุกใช่ใหมหล่ะครับกับเกม Dragonnest Online ในบทความนี้ผมจะมาแนะนำนักเล่นเกมมือใหม่ที่กำลังศึกษาตัวเกม Dragonnest Online ที่กำลังงมหาทางในโลกอันกว้างใหญ่ของ Dragonnest Online วันนี้ผมมีคำแนะมาบอกทุกท่านครับ

นี่ Close Beta นะคร๊าบบๆๆ มือใหม่จะรีบเก็บเลเวลไปใหนๆๆ….จะรีบตามคนอื่นที่ได้ลองเล่นมาก่อนแล้วไปใหนครับท่าน มาฝึกและลองกับระบบตัวเกมซักนิดแล้วท่านจะสนุกและเข้าใจตัวเกมมากขึ้นนะครับ งั้นลองทำตามคำแนะนำของผมเลยครับ ลุย!!

1.เตรียมพร้อมและทำความรู้จักกับระบบเกมพื้นฐาน
หากเข้าเกมมาแล้วจะมีการฝึกคำสังพื้นฐานใน Tutorial มาแล้วหากยังไม่ชำนาญ ผมแนะนำอยากให้กลับเข้าไปฝึกอีกซักหน่อย เพราะมันเป็นคำสั่งพื้นฐานสำคัญมากในการต่อสู้ของโลก DragonNest แห่งนี้ ซึ่งเราสามารถกลับไปฝึกจนชำนาญ โดยการไปหา NPC ที่ชื่อว่า Mayor Harold ซึ่งมีอยู่ทุกเมืองเกิดของเราและเมื่อเราฝึกจนคิดว่าชำนาญพอแล้วก็มาดูเรื่องต่อไปกันเลยครับ

 

2.สำรวจ NPCและสัญลักษณ์ต่างในเมืองเกิดกันบ้างหรือยัง

มือใหม่หลายท่านพอเกิดมาปุ๊บ ก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินตามเควสไปเก็บเลเวลตามลูกศรชี้ เรียกซะว่าเกิดมาลุยอย่างเดียวอย่างอื่นข้าไม่สน ผมแนะนำว่าอยากให้ท่านทั้งหลายได้เสียสละเวลา 5-10นาที ลองสังเกตแมพแผนที่ภายในเมืองหรือเปิดแมพในคำสั่ง ShotCut ดูก่อนนะครับ ว่ามีรูปร่างหน้าตาอย่างไรบ้าง ว่าร้านตีดาบ ร้านซื้อของ  Npc ฝากขายของอยู่ตรงใหน มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร สัญลักษณ์ต่างๆ แทนตัวของNPC นั้นเป็นเช่นไร และเมื่อเราได้เรียนรู้แล้วเกี่ยวกับ NPC ต่างๆแล้วมันก็จะทำให้ชีวิตท่านง่ายขึ้นมากในโลกแห่งเกม DragonNest แห่งนี้ครับ

 ถ้าเราต้องการที่จะหา NPC หรือร้านค้าหรือไปยังตำแหน่งที่เราต้องการ ให้เรากดคลิกขวาที่เม้าส์ลงไปตำแหน่งที่ต้องการครับ ตัวละครของเราก็จะเดินไปดังจุดนั้น มีเพียงวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้ตัวละครของเราเดินไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ครับ

3.อยากรู้แต่ไม่อยากถาม

อยากรู้อะไรบางอย่างคร่าวๆเกี่ยวกับระบบเกมแต่ไม่อยากถามเลยกลัวเค้ารู้ว่าเป็นมือใหม่ ลองเปิดดู”ช่วยเหลือ” ดูสิครับ บางอย่างท่านอาจจะเข้าใจก็ได้ ในตัวเกม Dragonnest มีระบบเกมที่อธิบายระบบเกมต่างในตัวเกมหลักๆ ใว้ในตัวเกมครับ ซึ่งอยู่ในระบบ “ช่วยเหลือ” กด Esc และกด “ช่วยเหลือ” อาจจะมีคำตอบที่ท่านต้องการอยู่ในนั้นก็ได้ครับ

เมื่อท่านอยากรู้แต่ไม่อยากถาม ท่านลองกด “ช่วยเหลือ” อาจจะช่วยท่านได้ครับ

4.จะลุยเควสไม่รู้จะเลือกเควสใหน มือใหม่งงหมดแล้ว

เมื่อท่านเป็นมือใหม่ในโลก Dragonnest และท่านได้เริ่มที่จะเก็บเลเวลแล้ว เควสเป็นสิ่งสำคัญครับในการดำเนินไปของโลก Dragonnest แต่ในเกม Dragonnest นั้นจะมีเควสอยู่สองส่วน ซึ่งเรียกว่าเควสหลักและเควสรอง (ผมจะไม่อธิบายในตอนนี้เกี่ยวกับเรื่องเควส แต่เดี่ยวผมจะเขียน Guide เกี่ยวกับระบบเควสของเกมนี้อีกทีครับ) ผมขอให้เน้นไปที่เควสหลักของตัวเกมก่อน เพราะเกม Dragonnest นั้นเป็นเกมที่ดำเนินไปตามเนื้อเรื่องนั้นเองครับ รวมไปถึงดันเจี้ยน ระดับของดันเจี้ยน Npc ต่างๆ และบอสในเกมDragonnest นั้น ล้วนเกี่ยวพันธ์กับเควสหลักของตัวเกมครับ ดังนั้นจึงต้องทำเควสหลักเป็นหลักสำคัญก่อน แต่บางทีเราก็สามารถรับเควสรองไปได้เพราะบางเควสหลักใช้ดันเจี้ยนเดียวกันในการทำเควส ซึ่งจะช่วยให้เราได้ค่าประสบการณ์มากขึ้นนั้นเองครับ

เควสหลักและเควสรองแยกส่วนกันอย่างชัดเจนครับ

5.เตรียมตัวก่อนลงดันสำรวจความพร้อมว่าพร้อมแค่ใหน

อีกจุดหนึ่งที่มือใหม่ไม่ควรมองข้ามคือการเตรียมความพร้อมก่อนลงดัน หลายคนลงลุยดันทั้งที่ๆ ไม่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นสกิลยังไม่ได้เรียนรู้สกิลใหม่ ไม่ได้อัพ ยิ่งพกสกิลไปน้อยไม่เรียนรู้สกิลใหม่ๆ ยิ่งเสียเปรียบเพราะเกม Dragonnest นั้นเป็นการคอมโบสกิลติดต่อกันเป็นชุด การที่เรามีสกิลน้อยทำให้เราต้องมารอดีเลย์ของสกิลนาน บู้ไม่ต่อเนื่องดังนั้นอย่าควรมองข้าม และอีกสิ่งคือการเคลียสิ่งของในตัวให้เหลือติดไปน้อยที่สุดในการลงดัน เพราะแต่ละครั้งของการลงดันเจี้ยนนั้น สิ่งของที่ได้จากดันเจี้ยนนั้นมีเยอะมากโดยเฉพาะอุปกรณ์เสื้อผ้าอาวุธชุดเกราะต่างๆล้วนตกมาให้เก็บอย่างมากมายดังนั้นการเคลียสิ่งของในตัวให้เหลือน้อยที่สุดเป็นเรื่องจำเป็นทีเดียวครับ และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆในการลงดัน ก็คือ อย่าลืมพกยาเพิ่มเลือดและมานาไปด้วย อย่าคิดว่าในดันมีดรอปตกให้ใช้ เพราะบางทีลุยห้องบอส เห็นไอเท็มเพิ่มเลือดตกอยู่จะเก็บ ก็เก็บไม่ได้ เพราะโดนทั้งลูกน้องและบอสล้อมหน้าล้อมหลัง จะฝ่าไปเอาก็กลัวว่าจะตายซะก่อน ดังนั้นเตรียมตัวไปหน่ะดีสุดแล้วครับ

เตรียมพร้อมก่อนลุยดีที่สุดครับพี่น้อง

ุุทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นคำแนะนำพื้นฐานที่มือใหม่สามารถกระทำได้ไม่ยากในเกม Dragonnest หวังว่าคงจะช่วยนำทางให้มือใหม่ที่กำลังฝึกฝนได้มีความเข้าใจในตัวเกมและมีความพร้อมในการเล่นเกมมากขึ้นนะครับ ขอให้โชคดีครับท่าน อ่ออย่าลืมนะครับนี่คือ Close Beta ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทกับเลเวลมากไปนะครับดูแลสุขภาพบ้าง อีกไม่กี่วันก็รีเริ่มใหม่กันหมด มาเรียนรู้เกี่ยวกับระบบเกมให้เข้าใจก่อนดีกว่า เปิด Open Beta เมื่อใหร่ ค่อยจัดเต็มครับ

Dragon nest Heraldry Guide

็สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมจะมานำเสนอบทความเกี่ยว Heraldry ของเกม Dragon Nest ครับ ซึ่งบทความนี้ผมนำมาจากHeraldry Guide ของต่างประเทศนะครับ ผมเอามาแปลอีกทีนะครับ แต่แปลในแบบของผมเพื่อให้คนอ่านเข้าใจง่ายขึ้นเนื้อหามันอาจจะไม่เปะๆตามบทความต้นฉบับก็ขออภัยด้วยละกัน แต่ผมจะลงลิ้งไว้ใต้บทความนะครับ จะได้ไปอ่านตัวเต็มกันอีกทีครับ

Heraldry Plates คืออะไร แล้วทำไมพวกเราจำเป็นต้องใช้มัน?

Heraldry Plate เป็นแผ่นตราสัญลักษณ์ของอาชีพต่างๆที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตัวละครใน PvE / PvP ที่จะมาช่วยเสริมทักษะการเรียนรู้หรือสกิลให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมนั้นเองครับ

็Heraldry Guide นี้จะมาอธิบายรายละเอียดโดยแบ่งเป็นรายละเอียดดังต่อไปนี้ครับ

1. Heraldry System ข้อมูลทั่วไป
2. Status Boost Heraldry
3. Class Skill Boost Heraldy
4. Special Skills (Nest) Heraldry
5. Rarity and Level

6. Heraldry Sets

7. Additional Information tabs

Section One:Heraldry System ข้อมูลทั่วไป

ภาพข้างบนที่เห็นนี้เป็น Heraldry Set ของแต่ละอาชีพนั้นๆ ซึ่งจะมีเหมือนกันทุกอาชีพและเราสามารถดูประเภทของ Heraldry และละดับต่างๆ ของ Heraldry รวมไปถึงระดับของเลเวลตัวละครที่สามารถถึงตามเงื่อนไขก็จะสามารถใส่ Heraldry เสริมความสามารถอันต่อไปได้ และเมื่อถึงเลเวลที่กำหนดก็ ช่องๆต่างก็จะปลดให้เราโดยอัตโนมัติครับ

ในการหา Heraldry Plate นั้น เราสามารถหาได้ตามดันเจี้ยนทั่วไปจนถึงดันเจี้ยนพิเศษก็สามารถหา Heraldry ได้ ยิ่งดันเจี้ยนมีความยากเท่าไร ก็มีโอกาศมากที่จะได้ Heraldry Plate ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น

แต่หลังจากเมื่อเราได้ Heraldry Plate มาเรายังไม่สามารถนำมาใช้ได้เพราะมันถูกล็อคไว้เราต้องทำการปลดล็อคกับ NPC และเมื่อเราปลดล็อคก็จะมีตัวเลือกขึ้นมาสองข้อซึ่งเป็นสถานะความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันซึ่งเราจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ยกเว้นแต่ Special Heraldry Plateที่จะให้ผลอย่างใดอย่างหนึ่งกับเรา

ถ้าเรามี Heraldry Plate ที่ล็อคไว้ให้มาหา Npc Scholar Bailey ซึ่งมีอยู่ในทุกเมืองให้ทำการปลดล็อค Heraldry Plateให้กับเรา

และในระหว่างที่เรากำลังปลดล็อค Heraldry Plate ก็จะมีตัวเลือกขึ้นมาสองตัวเลือกซึ่งจะแสดงสถานะความสามารถที่แตกต่างกัน เช่น เลือกอันที่ 1 เพิ่มความรุนแรงในการโจมตีทางกายภาพของสกิลนั้น หรือเลือกอันที่ 2 ลด Mp ในการใช้สกิลนั้นๆ ซึ่งเราจำเป็นต้องเลือกอันใดอันหนึ่ง Heraldry Plate จึงจะปลดล็อค

Heraldry Plate จะแสดงรายละเอียดของสถานะความสามารถที่จะได้รับในการเลือก Heraldry Plate ข้อใดข้อหนึ่ง

 

และแน่นอนการปลดล๊อคไม่มีอะไรที่ฟรีครับ เราจำเป็นต้องเสียอัญมณีและเงินจำนวนหนึ่งในการปลดล็อค ยิ่ง Heraldry Plate ระดับสูงเท่าไรจะนำมาปลดล็อค ก็ต้องเสียอัญมณีในระดับสูงและเงินจำนวนมากขึ้นเท่านั้นครับ

Heraldry Plate เมื่อได้ทำการปลดล็อคแล้ว และนำมาสวมใส่ก็จะใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นไม่สามารถขายต่อได้ครับ ต้องทำลายทิ้งอย่างเดียวเท่านั้นครับ

การทำเช่นนี้คลิกขวาบน Heraldry Plate ที่เป็นปลายทางที่จะสิ้นสุดลงและป๊อปอัพจะเกิดขึ้นขออนุญาตเป็นทำลายมันตลอดไป ดังนั้นไม่ต้องไปรอบ ๆ ทำลายHeraldry Plate ของคุณโดยอุบัติเหตุเพราะคุณไม่เคยจะเห็นมันอีกครั้งถ้าคุณทำ ^ ^; (เว้นแต่คุณจะ remake / ซื้อจากผู้ใช้คนอื่น) และนี่ก็สิ้นสุดพื้นฐานของHeraldry Plate แล้วครับ

Section Two: Status Boost Heraldry

จะว่าไป Heraldry Plate นั้นก็เหมือนกับไอเท็มเพิ่มสถานะที่ทำให้ตัวละครของเราเก่งขึ้นเกินล้ำกว่าคนอื่น ยิ่งถ้าได้ Heraldry Plate ดีๆเข้ากับสายอาชีพของตนเองที่เล่นก็จะได้เปรียบผู้ิ่อื่นมาก ยกตัอย่างอาชีพที่ต้องใช้ Mp จำนวนมากหรือใช้ MP ตลอดถ้าได้ ก็อาจจะอยากได้ Heraldry Plate แบบด้านล่างนี้

บางครั้งในการตามหา Heraldry Plate ที่ตรงกับสายอาชีพของตัวละครเรา เราอาจจะต้องลงดันเจี้ยนหลายที่หรือยากขึ้นไปในระดับยากของดันเจี้ยนนั้นเพื่อตามหา Heraldry Plateที่มีสถานะหรือประสิทธิภาพที่ดีๆ ยิ่งดันเจียนที่ยากก็จะได้ Heraldry Plateที่มีประสิทธิภาพดีมากขึ้น เพราะ Heraldry Plate นั้นมีหลายระดับ และยิ่งประสิทธิภาพสูงค่าสถานะประสิทธิภาพก็จะสูงขึ้นด้วย แต่ใช่ว่าเราลงดันเจี้ยนแล้วจะได้ Heraldry Plateที่ตรงกับสายอาชีพเรา เพราะส่วนมากจะได้ Heraldry Plate ไม่ตรงกับสายอาชีพหรือไม่ก็ได้ Heraldry Plate ที่มีคุณภาพต่ำ เป็นต้น 

Section Three: Class Skill Boost Heraldy

Class skill boost heraldy นั้นหมายถึง Heraldry Plate ที่ถูกกำหนดให้ใช้ได้เฉพาะกับคลาสอาชีพหรืออาชีพใดอาชีพหนึ่งนั้นโดยตรงครับ ซึ่งจะต่างกับ Heraldry Plate โดยทั่วๆไป โดยจะกำหนดอาชีพที่ใช้ได้แบบเจาะจงอาชีพใดอาชีพหนึ่งเท่านั้น หรือ เป็นคลาสใดคลาสหนึ่งเท่านั้น ซึ่งแต่ละคลาสจะมีรูปแบบพื้นฐานของคลาสตนเอง ยกตัวอย่างเช่น

เราได้ Heraldry Plate ของ Class Sorceress เราก็สามารถใช้ Heraldry Plate พื้นฐานอันนี้ไปได้ทุกสายอาชีพของคลาส Sorceress/Elemental Lord/Force User ซึ่งสามารถใช้ Heraldry Plate พื้นฐานอันนี้ได้

จากรูป รูปนี้เป็นรูปที่แสดงรายละเอียดจาก Heraldry Plateที่เป็นพื้นฐานของ Class Sorceress

.

จากรูป รูปนี้เป็นรูปที่แสดงรายละเอียดของ Heraldry Plateที่เจาะจงว่าต้องใช้ได้กับอาชีพ Elemental Lord อย่างเดียวเท่านั้นครับ อาชีพอื่นที่ไม่ได้ระบุมาใน Heraldry Plate นี้จะไม่สามารถแสดงผลของ Heraldry Plateนี้ได้ครับ

สำหรับผู้เล่นใหม่นั้นที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ Heraldry Plate ก็ให้จำไว้ว่า Heraldry Plate ของแต่ละคลาสนั้นมี 4 ชนิด แบ่งแยกไปตามคลาสใครคลาสมัน และแต่ละอาชีพตั้งแต่เปลี่ยนอาชีพขั้น 2 และ 3 ก็จะมี Heraldry Plateเฉพาะเจาะจงของอาชีพขึ้นไปอีก ซึ่งเราควรเลือกใช้ให้ตรงกับสายอาชีพที่เราเล่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวผู้เล่นขึ้นไปครับ

 Section Four: Special Skills (Nest) Heraldry

Special Skills (Nest) Heraldry จัดเป็นสุดยอด Heraldry Plate ที่ทุกคนใฝ่ฝันละขวนขวายอยากหามาครอบครอง เพราะมันเป็น Heraldry Plate ที่สามารถใช้สกิลของ Boss ต่างๆในเกมได้ครับ ซึ่งวิธีการหามาครอบครองนั้น ก็ต้องหาจากดันเจี้ยนพิเศษสุดโหด ที่พวกเราเรียกกันคุ้นหูว่า”ดันเจี้ยนNest” นั้นเอง 

รูปข้างบนนี้เป็นรูปตัวอย่างของ Heraldry Plate Special Skill ที่ชื่อ The Apocalyptic Heraldry ซึ่งนับว่าเป็น Heraldry Plate สกิลบอสที่ค่อนข่างหายากและมีราคาสูงมาก จนคนซื้อร้องเจี๊ยกกันเป็นแถวเลยหล่ะครับ

และนี่คือตัวอย่างของสกิลบอสที่เรียกออกมาใช้ได้โดยปล่อยกระทิงวิ่งใส่ศัตรูครับ เท่ชิมิ!!

สกิลบอสที่ได้จาก Heraldry Plate นั้นก็เหมือนสกิลทั่วไปของอาชีพเราครับ นั้นก็คือเราสามารถที่จะลากสกิลบอสมาวางไว้ที่ Hotkey Bar ของเรา และกดใช้เหมือนสกิลทั่วไป มันมีดีเลย์ด้วยนะครับ ไม่ใช่กดปล่อยรัวๆได้ตลอด เอาเป็นว่าสกิลบอสเป็นเหมือนสกิลทั้วไปที่เราใช้ สามารถนำมาวางบนปุ่ม Hotkey Bar ได้ มีดีเลย์สกิลเหมือนสกิลทั่วไปนั้นเอง ส่วนใครก็ตามที่มีโอกาสได้ครอบครอง Heraldry Plateสกิลบอสมาจากที่ใดก็ตาม เวลาไปclaftเพื่อปลดล็อค มันจะแตกต่างจาก Heraldry Plateทั่วไปตรงที่ Heraldry Plateทั่วไปจะมีตัวเลือกให้สองตัวเลือกว่าจะเลือกคุณสมบัติพิเศษแบบใหน แต่ถ้าเป็น Heraldry Plateสกิลบอส จะมีตัวเลือกให้เราเลือกแค่ตัวเลือกเดียวเท่านั้นนะครับ

และเมื่อเราสวมใส่ Heraldry Plateสกิลบอสใดก็ตามมันจะไปโชว์สัญลักษณ์พิเศษตรง Comes From Special(ดูในรูป Heraldry Plate Bar รูปที่1) ให้เราดูครับ เก๋ใช่ใหมละครับ อิอิ อยากได้ๆ!!

Section Five: Rarity and Level

ในส่วนนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับระดับคุณภาพความหายากและเลเวลของ Heraldry Plateกันครับ สำหรับผู้เล่นท่านใหม่นั้นอาจจะสงสัยว่า Heraldry Plate นั้นมีระดับต่างกันใหม ต้องตอบว่าต่างกันครับ เช่น Heraldry Plateชนิดเดียวกัน คุณสมบัติเหมือนกัน “แต่ให้ปริมาณที่ต่างกัน” หลายท่านอาจจะสงสัยเราไปดูภาพกันครับ

จากรูป นี่คือ Heraldry Plate เกรด C จะเป็น Heraldry Plateสีเขียวซึ่งมีคุณภาพต่ำสุด หาได้ทั่วไปตามระดับดันเจี้ยนพื้นฐานของเกม Dragonnest ครับ

จากรูป นี่คือ Heraldry Plate เกรด B จะเป็น Heraldry Plateสีฟ้าซึ่งมีคุณภาพระดับปานกลาง หาได้ทั่วไปตามระดับดันเจี้ยนที่มีระดับสูงกว่าระดับพื้นฐานหรือระดับพื้นฐานก็ตกเช่นกันครับ

จากรูป นี่คือ Heraldry Plate เกรด A จะเป็น Heraldry Plateสีส้มซึ่งมีคุณภาพระดับสูงสุด หาได้ทั่วไปตามระดับดันเจี้ยนตั้งแต่ Master จนถึง Abyssขึ้นไปครับ

หลังจากที่เราได้รู้จักกับ Heraldry Plate ตามคุณสมบัติความหายากกันแล้ว เรามารู้จัก Heraldry Plate ตามระดับเลเวลกันครับ ซึ่ง Heraldry Plate ชนิดนี้จะมีชื่อเหมือนกัน แต่จะมีระดับเลเวลต่างกันและแน่นอนครับ คุณภาพละปริมาณประสิทธิภาพก็ต้องมากตามละดับเลเวลเช่นกันครับ

 

Section Six: Heraldry Sets

ในส่วนสุดท้ายจะพูดคุยเกี่ยวกับ Heraldry Setsกันครับ การสร้างตัวละครหนึ่งตัวในแต่ละอาชีพที่ผู้เล่นสนใจนั้น จุดมุ่งหมายของผู้เล่นก็แตกต่างกันไปครับ บางคนเน้นล่าบอสลงดันเจี้ยนPvE บางคนเน้นสร้างตัวละครมาเพื่อ PvP กัน ดังนั้นการเสริมประสิทธิภาพของ Heraldry Plate ก็จะแตกต่างเช่นกันไปครับ คนชอบ PvE อาจจะต้องการ Heraldry Plate ที่ให้ Mana เยอะ คริติคิลสูง และพลังป้องการสูงๆ ส่วนที่ชอบ PvP อาจจะต้องการ พลังโจมตีสูงๆ วิ่งเร็ว ดีเลย์สกิลไว เลือดเยอะ ซึ่งการวางแผนในการสัญหา Haraldry Sets มาเสริมประสิทธิภาพของตัวละครจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาดเลยครับ

นี่เป็นตัวอย่างของ Haraldry Sets ของผู้เล่นท่านหนึ่งครับ ที่ Heraldry Sete นั้นจะเน้นไปที่พลังป้องกัน พลังโจมตี วิ่งไว และลดดีเลย์สกิลครับ ซึ่งเดาว่าผู้เล่นท่านนี้น่าจะเป็นสาย PvP เพราะรูปแบบของ Heraldry Sets นั้นเน้นออกไปทางด้าน PvP นั้นเองครับ คงจะพอเข้าใจนะครับ สำหรับ Heraldry Sets ในบทความนี้

Spoiler: Additional Information of Heraldry Types

Heraldry Plate นั้นจะมีความชัดเจนของคุณสมบัติที่ไม่ซับซ้อนกัน ที่อาจจะแตกต่างกัน และถ้าคุณสมบัติเหมือนกันก็จะให้ค่าประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไปดังตัวอย่าง ที่ผมยกให้ดังต่อไปนี้ครับ

Heraldry Plate ที่มีสองค่าประสิทธิภาพ

Heraldry Plate เพิ่ม Mana 100 และเพิ่ม Wisdom 10 (Int) อันนี้เป็นค่าเพิ่มประสิทธิภาพที่มีสองค่าที่แตกต่างกันครับ

Heraldry Plate เพิ่ม Mana 100 และเพิ่ม Mana 10% อันนี้เป็นค่าเพิ่มประสิทธิภาพสองค่าที่ให้เหมือนกัน แต่ให้ผลต่างกัน เพิ่มแบบสเตัสโดยตรงและเพิ่มเป็นแบบเปอร์เซ็นครับ

และนี้เป็น  Heraldry Plate Types ต่างๆกันครับ

Bound - boost delay
Deadly - boost critical
Impact - boost stun
Vigor - boost MP regen
Healthy - boost vitality
Life - boost HP
Destructive - boost physical attack
Magic - boost magic attack
Fortunate - boost crit resist
Final - boost final dmg
Volitional - boost stun resist
Impregnable - boost defense
Barrage - boost magic defense
Agile - boost agility
Dire - boost strength
Wisdom - boost int
Mana - boost MP
Indomidable - boost delay resist

Heraldry Plate สีต่างจะเพิ่มประสิทธิภาพดังต่อไปนี้ครับ

สีเขียว เกรด C จะเพิ่ม stat เท่านั้น

สีฟ้า    เกรด B จะเพิ่ม stat และ เพิ่ม % จาก stat

สีส้ม    เกรด A จะเพิ่ม stat และ เพิ่ม % จาก stat ที่มากกว่าเกรด B

แปลและเรียบเรียง JsMaster Dragon Nest Blogspot.com

แหล่งที่มา http://www.dragonnestsource.com/forum/guides/897-dragon-nests-heraldry-guide.html

Guide For Sorceress Class

ชื่ออาชีพ : Sorceress (นักเวทย์)

เพศ : หญิง

รายละเอียด : Sorceress เป็นอาชีพขั้นแรกของนักเวทย์ ซึ่งเป็นสายอาชีพที่ถือว่ามีความแรงในการโจมตีด้วยเวทย์แรงที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยการใช้เวทย์ธาตุ ไฟ , นํ้าแข็ง และ ความมืด
สายอาชีพนี้มีอาวุธหลักทั้งหมด 3 ชิ้นด้วยกันดังนี้ - หนังสือเวทย์ / ตุ๊กตา / ลูกแก้ว ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีเน้นเพิ่มความสามารถให้กับตัวละครไม่เหมือนกัน

หนังสือ (Book) : เป็นอาวุธที่เพิ่มความสามารถเวทย์มนต์ให้แก่ผู้ใช้ โดยจะเน้นในด้านการ Recovery MP หรือเร่งการฟื้นฟูมานา ให้แก่ผู้ใช้ ในส่วนของความแรงเวทย์ และค่า Critical นั้นอยู่ในระดับกลาง

ตุ๊กตา (Doll) : เป็นอาวุธที่เพิ่มความสามารถเวทย์มนต์ให้แก่ผู้ใช้ โดยจะเน้นในด้านการเพิ่ม MAX MP ให้แก่ผู้ใช้ ในด้านความแรงเวทย์ และค่า Critical นั้นจะเท่ากับหนังสือ

ลูกแก้ว (Orb) : เป็นอาวุธที่เพิ่มความสามารถเวทย์มนต์ให้แก่ผู้ใช้ โดยจะเน้นในด้านการ เพิ่มพลังโจมตีเวทย์มนต์ (Magic Damage) & เพิ่มค่า Critical มากที่สุด

และหากผู้เล่นเก็บค่าประสบการณ์จนถึงเลเวล 15 ได้แล้วจะสามารถเปลี่ยนอาชีพแยกออกได้เป็น 2 สายด้วยกันนั้นคือ : Elemental Lord & Force User

Sorceress Skill Tree

- * สามารถกดที่รูปสกิล / ชื่อสกิล เพื่อดูตัวอย่างของสกิลได้ * -

Flame Worm
ต้องการเลเวลตัวละคร : 1
รายละเอียด : ปล่อยลูกไฟไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เหมาะกับการใช้เวลาโดนมอนสเตอร์วิ่งตามในแนวหน้า สามารถใช้สกิลนี้พลักมอนสเตอร์ออกไปได้ โดยสกิลนี้มีค่า Delay ค่อนข้างสูง และสามารถทำให้เป้าหมายติดสถานะ Burn ชั่วคราวได้ ถ้าหากเป้าหมายติดสถานะ Burn อยู่แล้วสามารถใช้สกิลนี้เพื่อเพิ่มความแรงให้ Burn ได้แรงขึ้นและระยะเวลานานยิ่งขึ้น ... อัพเป็นทางผ่านสำหรับ Elemental Lord พอ ส่วน Force User ไม่ต้องอัพสกิลนี้

Whirling Staff
ต้องการเลเวลตัวละคร : 1
รายละเอียด : ใช้คทาของเรากระโดดแล้วควงโจมตีใส่มอนสเตอร์ข้างหน้า เป็นสกิลที่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไร จะใช้เพียงแค่ช่วงแรกของเกมเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีค่า Delay ค่อนข้างสูง แต่ด้วยสกิลเป็นประเภท กายภาพ และโอกาศใช้ได้น้อยจึงไม่เป็นที่นิยม (แต่เป็นอีก 1 สกิลที่จำเป็นในการคอมโบใน PVP) ... มีไว้เลเวล 1 พอไม่ต้องอัพเพิ่มหรอก -3-

Glacial Spike
ต้องการเลเวลตัวละคร : 3
รายละเอียด : ปล่อยก้อนนํ้าแข็งพุ่งโจมตีศัตรูในแนวหน้า 25 องศา เป็นสกิลสำคัญมากเนื่องว่าเป็นสกิลที่มีโอกาศทำให้มอนสเตอร์ที่โดนสกิลนี้มีโอกาศติด Freeze และเป็นสกิลที่มีค่า CD น้อยสามารถใช้ได้เรื่อยๆ และตัวสกิลตัวมันเองก็มีพลังโจมตีที่ค่อนข้างสูงใน 1 hit ... ควรอัพให้เต็มสำหรับ Elemental Lord เพราะถือว่าเป็นสกิลที่ทำ DPS ได้ดีมากๆ แต่หากเป็น Force User ให้อัพแค่ 1 พอ

Poison Missile
ต้องการเลเวลตัวละคร : 5
รายละเอียด : ปล่อยก้อนพิษไปข้างหน้า 2 ก้อน (45 องศา ทั้งซ้ายและขวา) โจมตีเป็นธาตุ Dark โดยศัตรูทั่วไปหากโดนเข้าไปจะทำอะไรไม่ออกเนื่องด้วย สกิลพิษมีค่า Delay ที่สูงถึงขนาดที่ทำให้มอนสเตอร์เดินออกจากกองพิษไม่ได้กัน เหมาะสมกับการรวมมอนสเตอร์ในแนวหน้า แล้วปาพิษดักเพื่อให้มอนสเตอร์ติดกับแล้วร่ายเวทย์แรงๆใส่ ... เป็นสกิลที่ควรอัพให้เต็มหากเล่น Force User แต่สำหรับ Elemental Lord ควรอัพแค่ 1-2-3 พอ ไม่จำเป็นต้องอัพเต็ม เอาพ้อยไปอัพ Glacial Spike จะดีกว่า
*หากอัพสกิลนี้จน Lv Skill : 12 จะปล่อยกองพิษจาก 2 > 3 ก้อน (สามารถอัพได้ถึง 12 ตอนตัวละครเลเวล 38)*

Force Explosion
ต้องการเลเวลตัวละคร : 9
รายละเอียด : สร้างก้อนพลังความมืดข้างหน้าและระเบิดออกมา เป็นสกิลที่ถือว่าใช้เปิดฉากต่อสู้ในช่วงแรก และเป็นสกิลทางผ่านเพื่ออัพสายสกิลของอาชีพ Force User หลังๆสกิลนี้ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไรเนื่องจากค่าความเสียหายนั้นไม่สูง แต่ก็นิยมใช้กันใน PVP เวลาเป้าหมายกำลังวิ่งหนีเรา

Shock Wave
ต้องการเลเวลตัวละคร : 12
รายละเอียด : ระเบิดพลังเวทย์รอบๆตัวเรา (เวทย์มนต์กายภาพ) โดยสกิลนี้ถือว่ามีค่า Delay สูงที่สุดในสาย Sorceress แล้วเพราะศัตรูที่อยู่รอบๆตัวเราหากโดนเข้าไปที ถึงกับกระเด็นชนกำแพงกันเลยทีเดียว ... ไม่ควรอัพจนสูงเกินไป แนะนำให้อัพให้เป็นทางผ่านสำหรับสาย Force User และอัพแค่ 1 สำหรับ Elemental Lord ด้วยเหตุผลคือแม้ว่าจะอัพสูงเท่าไรค่า Delay ที่ได้ก็เท่าเดิม ดาเมจไม่ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดสักเท่าไร มีไว้ใช้ในช่วงเวลาที่เราโดนรุมก็โอเครแล้ว

Meditation
ต้องการเลเวลตัวละคร : 35
รายละเอียด : เป็นบัฟประจำสายอาชีพ โดยหากสมาชิกในปาร์ตี้ได้รับบัฟนี้จะใช้ MP ลดลงเวลาใช้สกิล 20% เป็นระยะเวลา 60 วินาที ... เป็นสกิลที่ยังไงก็ต้องอัพอยู่แล้วเพราะเสีย SP 0 และไม่เสียตังในการอัพ

Heel Attack
ต้องการเลเวลตัวละคร : 1
รายละเอียด : ใช้เท้าของเราขยี้มอนสเตอร์ที่ล้มลงอยู่ ค่าความเสียเป็นกายภาพ ... ยังไงทุกคนก็มีใช้กันอยู่แล้ว

Slap Attack
ต้องการเลเวลตัวละคร : 1
รายละเอียด : สกิลใช้โดยกดคลิกขวาของเมาส์ ซึ่งท่าจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับอาวุธที่เราเลือกใช้
- หากใส่ หนังสือ จะเป็นท่าเราเอาหนังสือตบหน้ามอนสเตอร์
- หากใส่ ตุ๊กตา จะเป็นท่าเราเสกเงาออกมาต่อยมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างหน้าเรา (ตามคลิปวีดิโอ)
- หากใส่ ลูกแก้ว จะเป็นท่าเราให้ลูกแก้วหมุนรอบตัวเราซึ่งหากมอนสเตอร์อยู่รอบตัวเรา 360 องศาจะโดนหมด และในฮิตสุดท้ายมอนสเตอร์จะกระเด็นออกห่างจากตัวเรา

Blink
ต้องการเลเวลตัวละคร : 1
รายละเอียด : สกิลพื้นฐานในการหลบการโจมตี โดยเราจะเป็นอมตะช่วงคราวในช่วงที่เราหลบ ... อัพให้เต็ม 5 อยู่แล้วทุกสายอาชีพ เวลาใช้แนะนำให้กด Shift + ทิศทางหลบ

Hammer Attack
ต้องการเลเวลตัวละคร : 4
รายละเอียด : สกิลกระโดดเอาคทาเคาะหัวมอนสเตอร์ มีค่า Delay & Super Armor Break ค่อนข้างสูงถึงขนาดทำให้อีกฝ่ายลงไปล้มกับพื้นยังได้ ... เหมาะกับการใช้เวลาทำลายสิ่งของ (ผนึก) และเหมาะกับการทำคอมโบใน PVP ควรจะอัพไว้

Counter Spell
ต้องการเลเวลตัวละคร : 5
รายละเอียด : สามารถกดใช้เวลาตัวละครเรานอนอยู่บนพื้น หากกดโจมตีตัวละครเราจะลุกขึ้นและระเบิดพลังรอบตัว ศัตรูที่อยู่รอบตัวเราหากโดนแรงระเบิดจะเสียหลักล้มทันที ... ใครไม่อัพก็...นะ = ="

Charge Missile
ต้องการเลเวลตัวละคร : 8
รายละเอียด : ชาร์จพลังลูกบอลเวทย์มนต์ และปล่อยพลังไปด้านหน้าตัวละคร สกิลนี้มีค่า Delay & Super Armor Break สูงมาก โดยหากใครโดนจะถึงกับชะงัก และหากเจอมอนสเตอร์ประเภทถือโล่ก็ร่ายสกิลนี้ 1-2 ทีโล่ก็แตกทันที แต่หากอัพสกิลนี้จะไม่สามารถคลิกซ้ายค้างเพื่อโจมตีธรรมดาได้ เพราะหากคลิกซ้ายค้างจะเป็นการชาร์จพลังเวทย์แทน .... เป็นสกิลที่เรียกได้ว่าคอ PVP น่าจะอัพไว้ เหมาะมากกับการ PVP 1 vs. 1 แต่คอลงดันหรือชอบ PVP หมู่ๆ สกิลนี้ควรข้ามไปเลย


Aerial Evasion
ต้องการเลเวลตัวละคร : 16
รายละเอียด : หากตัวละครเราเสียหลักบนอากาศ สามารถกดกระโดด (Space bar) เพื่อทรงตัวบนอากาศได้ .... อัพเต็มแบบไม่ต้องสงสัย

Escape
ต้องการเลเวลตัวละคร : 21
ต้องการสกิล : Blink Lv.2
รายละเอียด : หากตัวละครกำลังถูกอีกฝ่ายทำค่า Delay ใส่เราอยู่ สามารถกดหลบแบบสกิล Blink เพื่อหลบการโจมตีอีกฝ่ายแบบทันที .... อัพเต็มแบบไม่ต้องสงสัย

Physical Mastery
ต้องการเลเวลตัวละคร : 20
รายละเอียด : เพิ่ม MAX HP ให้กับตัวละครเป็น % ... ควรอัพให้เต็ม

Mental Mastery
ต้องการเลเวลตัวละคร : 20
รายละเอียด : เพิ่ม MAX MP ให้กับตัวละครเป็น % ... อัพให้ได้เลเวลสกิล 2 พอ

Mental Training
ต้องการเลเวลตัวละคร : 30
ต้องการสกิล : Mental Mastery Lv.2
รายละเอียด : ฟื้นฟูค่า MP ให้กับตัวละครเป็น % แบบอัตโนมัติ .... อัพเท่าที่อัพได้ เพราะหลังๆ MP ไม่พอใช้ =[]="

Video Promoted Sorceress

..................................................................................................................................



ชื่ออาชีพ : Elemental Lord (นักเวทย์แห่งธาตุ)

เงื่อนไขการเป็นอาชีพนี้ : เล่นตัวละครอาชีพ Sorceress จนถึงระดับ 15 และจบเควสเปลี่ยนอาชีพ 2 ครั้ง....

รายละเอียด : Elemental Lord ถือว่าเป็นสายอาชีพจ้าวแห่งธาตุ Fire & Water ซึ่งแต่ละธาตุก็จะมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน
โดยในธาตุ Fire (ไฟ) จะเป็นสายที่ลดเลือดมอนสเตอร์ได้เรื่อยๆ โดยหากเป้าหมายไหนถูกไฟเราเข้าไปจะติดสถานะ Burn(เผา) ยิ่งเวทย์ไฟเราแรงมากเท่าไร ความแรงในการเผายิ่งแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
ส่วนธาตุ Water (นํ้าแข็ง) จะเป็นสายที่ทำให้มอนสเตอร์ติดสถานะ Slow โดยความหนืดจะขึ้นอยู่กับสกิลที่ใช้ นอกจากนี้ยังทำ Freeze (แช่แข็ง) มอนสเตอร์ได้อีกด้วย ซึ่งมอนสเตอร์ทั่วไปหากโดนไปแล้วจะถึงกับหยุดนิ่งทำอะไรไม่ได้กันเลย ยกเว้นบอสจะทำให้นํ้าแข็งเกาะได้แต่ไม่สามารถที่จะหยุดบอสได้ รวมถึง Slow ด้วยจะไม่ส่งผลต่อบอส แต่การแช่แข็งมอนสเตอร์และบอสนั้นเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะเป้าหมายที่ติดแช่แข็ง จะได้รับค่าความเสียหายจาก กายภาพและเวทย์มนต์ มากกว่าเดิม 30-50% กันเลยทีเดียว!!!
แต่ถ้าหากพูดถึงความแรงโดยรวมแล้วต้องยกให้กับสาย Fire / เรื่องสนับสนุนหรือก่อกวนเล็กน้อยก็ยกให้ Water / เล่นผสมไปเลยก็ดี!!!!

เมื่อผู้เล่นเก็บค่าประสบการณ์จนถึงเลเวล 45 จะสามารถแบ่งสายอาชีพได้อีก 2 สายด้วยกันนั้นคือ : Saleana & Elestra

Elemental Lord Skill Tree

- * สามารถกดที่รูปสกิล / ชื่อสกิล เพื่อดูตัวอย่างของสกิลได้ * -

Fire Ball
ต้องการเลเวลตัวละคร : 15
ต้องการสกิล : Frame Worm Lv.5
รายละเอียด : ชาร์ตลูกไฟที่มือของเรา โดยจะต้องชาร์จ 3 วินาที ถึงจะสามารถทำค่าความเสียหายได้สูงสุด เป็นอีกหนึ่งสกิลที่มีค่า Super Armor Break มากที่สุดหากชาร์จครบ 3 วินาที ... เป็นสกิลที่ควรอัพให้เต็มเพราะเนื่องจากเป็นสกิลที่ถือว่าแรงที่สุดแล้วในสกิลธรรมดาของ Element และมีคูลดาวน์ที่ถือว่าน้อย

Inferno
ต้องการเลเวลตัวละคร : 17
ต้องการสกิล : Fire Ball Lv.1
รายละเอียด : ควงคทาไปข้างหน้าพร้อมกับปล่อยไฟออกไปทางยาวหน้าด้านหน้าตัวละคร (30 องศา) มีค่า Delay สูง ... เป็นสกิลที่ควรอัพให้เต็มสำหรับ Elemental สายไฟ เพราะเป็นสกิลที่ทำค่าความเสียหายโดยรวมถือว่าเยอะอยู่
* หากอัพเลเวลสกิลถึงเลเวล 7 จะเพิ่มระยะความไกลของสกิลจาก 5 เมตร > 7 เมตร (สามารถอัพเลเวลสกิล 7 ได้หลังจากตัวละครเรามีเลเวล 35) *

Fire Wall
ต้องการเลเวลตัวละคร : 23
ต้องการสกิล : Inferno Lv.3
รายละเอียด : ชาร์ตพลังไฟแล้วปล่อยออกมารอบตัวเรา ทำให้มอนสเตอร์เสียหลักและลอยไปบนอากาศ ... ไม่ควรจะอัพเยอะ อัพแค่ผ่านพอ เนื่องจากอัพ 1 เลเวลสกิลแล้วไม่ได้แรงมากขึ้นเท่าไร และเป็นสกิลที่เอาไว้แก้ไขสถานการณ์เวลาโดนมอนสเตอร์ และสกิลต้องร่ายในระยะใกล้อีกด้วย

Fire Shield
ต้องการเลเวลตัวละคร : 26
ต้องการสกิล : Fire Wall Lv.2
รายละเอียด : สร้างโล่ไฟขึ้นมารับค่าความเสียหายให้กับผู้ใช้จำนวนหนึ่งและเพิ่มค่า Delay ให้กับตัวเรา นอกจากนี้หากมีมอนสเตอร์อยู่รอบๆเวลาเราเปิดโล่นี้มอนสเตอร์จะติดสถานะ Burn ชั่วคราว สกิลนี้เป็นประเภท Toggle (ON/OFF) แต่ผู้ร่ายจะเสีย MP เรื่อยๆหากยังเปิดใช้โล่นี้ ... เป็นสกิลที่ควรอัพให้เต็มเพราะจะรับค่าความเสียหายได้เยอะมาก แต่ถ้าหากคุณเล่นสายผสม แนะนำให้อัพ Ice Shield จะดีกว่า

Flame Load
ต้องการเลเวลตัวละคร : 32
ต้องการสกิล : Fire Shield Lv.2
รายละเอียด : กระโดดขึ้นคทาแล้วทำตัวเป็นเด็กแว๊น แว๊นโดยทางที่เราแว๊นจะมีไฟตามติดข้างหลังตลอดจนหมดสถานะสกิล ... สกิลที่ต้องอัพเต็มไม่ว่าจะเล่นสายผสมหรือสายเดี่ยว เพราะมันแรงมาก แนะนำให้ใส่เพลทสกิลนี้เพื่อเพิ่มความแรงให้ยิ่งขึ้น

Video Promoted Elemental Lord

............................................................................................................

ชื่ออาชีพ : Force User (นักเวทย์แห่งกาลเวลาและห่วงมิติ)

เงื่อนไขการเป็นอาชีพนี้ : เล่นตัวละครอาชีพ Sorceress จนถึงระดับ 15 และจบเควสเปลี่ยนอาชีพ 2 ครั้ง....

รายละเอียด : Force User เป็นอาชีพที่พัฒนามาจาก Sorceress ซึ้งเป็นนักเวทย์ที่เกี่ยวกับกาลเวลาและห่วงมิติ ถึงแม้ว่าพลังเวทย์จะไม่เท่ากับสาย Elemental Lord
แต่ความสามารถนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่า Elemental Lord เลย โดย Force User มีความสามารถในการปั่นป่วนศัตรูได้ดีเยี่ยม อย่างเช่น ดูดมอนสเตอร์ให้มารวมอยู่จุดเดียวกัน , ทำให้ในอาณาเขตนั้นหากมีศัตรูเดินมาจะติด Slow , หยุดเวลาเหล่ามอนสเตอร์ไม่ให้สามารถทำอะไรได้ (ไม่สามารถใช้ได้กับบอส) นอกจากนี้ยังมีบัฟช่วยสมาชิกในปาร์ตี้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น ลดเวลาคูลดาวน์ของสมาชิกในปาร์ตี้ถึง 80-90% กันเลยทีเดียว!
ถึงแม้ว่าสกิลจะไม่แรงเท่า Elemental Lord แต่ว่าลูกเล่นและสีสันของสายนี้ไม่น้อยหน้าไปกว่า Elemental Lord

เมื่อผู้เล่นเก็บค่าประสบการณ์จนถึงเลเวล 45 จะสามารถแบ่งสายอาชีพได้อีก 2 สายด้วยกันนั้นคือ : Masjesty & Smasher

Video Promoted Force User

แหล่งที่มา/Credit Borad bbs.playpark.com คุณ bazara01

http://bbs.playpark.com/topic/141295-sorceress-%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88/